ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่สามารถดีดกลับไม่ผ่านขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน อีกทั้งยังหลุดลงมาปิดนอกกรอบ Bollinger Bottom ต่อเนื่อง5วันแล้ว แม้จะประคองตัวได้ไม่ลงไปทำ New low แต่ก็ไม่สู้ดีนัก เนื่องจาก MACDที่ซึมลงต่ำกว่าระดับศูนย์ แต่ในขณะที่RSI ซึมลงเข้าโซน Oversold แล้ว
ดังนั้นหากวันนี้(21 มี.ค.)ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low ต่อเนื่องต่ำกว่า1,604 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นรีบาวด์กลับได้ โดยมีแนวต้านแรกบริเวณ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,617-1,618 จุด ผ่านหรือปิดเหนือเส้นดังกล่าวได้ จึงจะมีลุ้นรีบาวด์ต่อแถวๆ 1,628-1,629 จุดต่อไป
ดังนั้นสัปดาห์นี้หุ้นที่น่าจับตามองและน่าลงทุน ได้แก่ TQMโดยมีแนวรับ 34.50 , 33.50 บาท ซึ่งมีแนวต้าน 37.00 , 38.25 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาได้แรงและปิดได้ในระดับสูงของวัน โดยสามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ10วันได้
อีกทั้งยังเริ่มมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 34.50 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 33.50 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 37.00 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 38.25 บาทต่อไป
อีกหุ้นหนึ่งที่น่าจับตาก็คือ JKN โดยแนวรับอยู่ที่ 7.65 บาท แนวต้าน 7.85 , 8.00-8.05 บาท ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นต่อเนื่องหลังจากผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันขึ้นมาได้ อีกทั้งเกือบผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้อีกด้วย
หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 7.65 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นไปแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 7.85 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 8.00-8.05 บาทต่อไป
ส่วนANANแนวรับอยู่ที่ 3.64 บาท มีแนวต้านที่ 3.72 , 3.84 บาท ระดับราคาพยายามดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันต่อเนื่อง โดยผ่านขึ้นมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันและปิดได้
ถ้าวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่ 3.64 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 3.72 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 3.84 บาทได้ต่อไป
ด้านตลาดทองคำโดยภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อถึงเมื่อเวลา 15.00 น วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 นั้น ราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,286.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,285.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเพียง 0.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ระหว่างสัปดาห์ผันผวนพอสมควรซึ่งยังได้รับผล กระทบจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,281.90-1,303.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กองทุน SPDR Gold Trust ยังคงขายทองคำออกมาต่อเนื่อง
ส่วนสัปดาห์นี้มีข่าวที่สำคัญคือประธานาธิบดีสหรัฐประกาศขู่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นภาษีจากระดับ 10% เป็น 25% เมื่อสัปดาห์ก่อนและการประกาศตอบโต้จากจีนที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกันในวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลงแรงในช่วงต้นสัปดาห์และหนุนให้ทองคำปรับขึ้นแรงไปถึงระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำค่อยๆปรับย่อตัวกลับมาเกือบจะเท่ากับราคาปิดของเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังมีข่าวสหรัฐยังคงเดินหน้าเจรจาประเด็นสงครามการค้ากับจีนต่อ รวมถึงการประกาศว่าสหรัฐจะชะลอเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป
ส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ตัวเลขสร้างบ้านของสหรัฐและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ล้วนแต่ออกมาในเชิงบวก ทำให้มีแรงขายทองคำออกมา
ขณะที่ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าลง 0.205 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.735 บาทต่อดอลลาร์จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 31.530 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 31.415-31.770 บาทต่อดอลลาร์
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้นราคาย่อตัวต่ำกว่าแนวรับ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ให้ไว้ ทำให้ควรขายออกไป แล้วรอซื้อใหม่อีกครั้งบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านหรือเป้าหมายระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากทะลุขึ้นไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนนักลงทุนระยะยาวยังมองเป้าหมายในปีนี้ 1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือใกล้เคียง จากที่เคยสะสมซื้อมาบริเวณต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำสะสมเพิ่มหากย่อมาต่ำกว่า 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น