หลังจากดัชนีหลุดลงมาแรงและทำ New low ในรอบสัปดาห์โดยที่ดัชนีหลุดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,600 จุดไปเล็กน้อย ก่อนที่ดัชนีจะดีดกลับขึ้นมาแรง โดยขยับขึ้นมาแตะเส้นค่าเฉลี่ย 5วันที่ระดับ 1,613 จุด ก่อนที่จะถูกขายทำกำไรระยะสั้นแต่ดัชนียังปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้เล็กน้อย
หากวันนี้(27พ.ค.)ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าระดับ 1,600 จุดอีก ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1615 จุดได้อีกครั้งก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1619 จุดต่อไป
ส่วนหุ้นที่แนะนำให้จับตามองในสัปดาห์ ได้แก่ JKN ซึ่งมีแนวรับที่ 7.85-7.80 บาทและมีแนวต้านที่ 8.20 , 8.45 บาท โดยระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาเล็กน้อยหลังจากดีดกลับขึ้นมาและไม่สามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน โดยระดับราคาอ่อนตัวลงมาแตะเส้นค่าเฉลี่ย10 วันอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มดีดกลับรอบใหม่
ถ้าวันนี้ราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 7.85-7.80 บาทอีก ระดับราคามีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 8.20 บาทได้อีกครั้ง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 8.45 บาท
ขณะที่หุ้นCBGมีแนวรับ 60.00 บาท และมีแนวต้านที่ 62.25-62.75 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์และผ่านขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ ซึ่งเป็นการปิดได้ในระดับสูงของวัน ในขณะที่ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์ได้อีกครั้งและมีวอลุ่มซื้อเพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้นหากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 60.00 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับได้แถวๆ 62.25-62.75 บาทต่อไป
ด้าน TOA มีแนวรับ 31.00 บาท มีแนวต้าน 32.00 , 32.50 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 ,10 และ 25 วันได้อีกครั้ง หลังจากหลุดลงไปทำ New low เล็กน้อย ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาได้แรงท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้ง MACDกำลังจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์
ถ้าวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 31.00 บาทอีก น่าจะได้ลุ้นดีดกลับแถวๆ 32.00 บาท และ 32.50 บาทอีกครั้ง
ขณะที่ตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 19.30 น วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,284.17 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,277.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์เท่ากับเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 7.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความตึงเครียดสงครามการค้าที่มากขึ้น
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,269.50-1,287.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเริ่มต้นสัปดาห์ ทองคำดีดตัวขึ้นเล็กน้อยหลังสหรัฐประกาศห้ามบริษัทในสหรัฐทำธุรกรรมกับบริษัทหัวเหว่ย ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนก่อนที่สหรัฐจะประกาศยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเป็นการชั่วคราวอย่างน้อยก็ถึงวันที่ 19 สิงหาคมที่จะถึงนี้
ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำปรับตัวลงแต่ราคาทองคำกลับมาดีดตัวขึ้นได้ในช่วงปลายสัปดาห์ หลังประธานาธิบดีสหรัฐประกาศอาจจะเดินหน้าขึ้นบัญชีดำบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีนอีก
ประกอบกับความไม่แน่นอนประเด็น Brexit ของทางฝั่งอังกฤษ ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ประกาศจะลาออกจากการเป็นนายก
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัว โดยเปลี่ยนแปลงแข็งค่าขึ้นเพียง 0.01 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.830 บาทต่อดอลลาร์จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 31.840 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 31.765-32.030
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ยังแนะนำให้รอซื้อคืนบริเวณแนวรับถัดไปใกล้ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านหรือเป้าหมายระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทะลุขึ้นไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังมองเป้าหมายในปีนี้1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือใกล้เคียงจากที่เคยสะสมซื้อมาบริเวณต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำสะสมเพิ่มหากย่อมาต่ำกว่า 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น