หุ้นทอง
เลือกหุ้นโดนใจรับกำไรตามเป้าต้อง"รู้จักตัวเอง-เข้าใจสไตล์หุ้น"


การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯหลายต่อหลายคนยังคงจดๆจ้องๆ เอ! จะเลือกลงทุนหุ้นตัวไหนดี ลงทุนแล้วแหม! ต้องโดนใจสุดๆ เพราะกว่าจะถึงจุดนั้น คุณในฐานะผู้ลงทุน ข้อสำคัญคือจะต้องรู้จักตัวคุณเองก่อน

 
โดยคุณต้องรู้ว่าตัวคุณเองเป็นคนใจร้อนหรือใจเย็น คุณสามารถรอคอยได้ไหมหรือรอคอยไม่ได้ คุณชอบแนวการลงทุนแบบไหน

 
 
 
 
 
เพราะการลงทุน ไม่มีแนวทางไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน มีแต่เพียงวิธีที่ถูกจริตและเข้ากับจังหวะชีวิตของแต่ละคน ดังนั้นคุณจึงต้องค้นหาแนวที่เหมาะสมกับบุคลิกและหาแนวที่คุณถนัดให้เจอ

เมื่อคุณรู้จักตัวคุณเองแล้ว เท่านี้ยังไม่พอ คุณยังต้องรู้จัก“ตัวหุ้น”ด้วยว่า หุ้นตัวนั้นๆเป็นหุ้นประเภทไหน โตเร็ว โตช้า วัฏจักรของหุ้นเป็นแบบไหนหรือยังขาดทุน ... ให้อะไร เงินปันผลหรือส่วนต่างราคา หรือ ความหวือหวา วูบวาบ เพราะมีหุ้นในกระดานกว่า 600 ตัว ก็ย่อมมีหุ้นที่หลากหลายสไตล์ จึงต้องเล็งดูว่า หุ้นตัวไหนตอบสนองความสนใจของคุณได้มากที่สุด

ขณะเดียวกันคุณยังต้องดูรูปแบบว่า รูปแบบนั้นๆใช่สไตล์ที่คุณชอบหรือไม่ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯมีเคล็ดลับมา บอกว่าซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถค้นหาสไตล์ของคุณเจอ คุณต้องแบ่งหุ้นเป็นประเภทต่างๆ โดยช่วยให้คุณเข้าใจสไตล์ของหุ้นได้ดียิ่งขึ้น และสามารถเลือกลงทุนในหุ้นแบบที่โดนใจคุณได้

สำหรับ การแบ่งกลุ่มหุ้นนั้น ต้องยอมรับว่าแต่ละคนใช้เกณฑ์การแบ่งกลุ่มหุ้นแตกต่างกันและมีหลากหลายแบบ เช่น บางคนก็เลือกแบ่งหุ้นออกเป็น 2 ประเภท คือ หุ้นเก็งกำไร กับหุ้นพื้นฐาน หรือบางคนก็แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ หุ้นเหมาะเล่นสั้น หุ้นเหมาะเล่นระยะกลาง และหุ้นเหมาะเล่นระยะยาว หรือแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ หุ้นเก็งกำไร หุ้นบลูชิพ หุ้นปันผล และหุ้นคุณค่า

 
 
หรือมากกว่านั้น ก็มีแนวการแบ่งกลุ่มหุ้นเป็น 6 ประเภท ตามหลักของ “ปีเตอร์ ลินช์” (Peter Lynch) ซึ่งมีคนเลือกใช้แบบนี้มากที่สุด เพราะมีความชัดเจน เข้าใจง่าย และคลาสสิกเหนือกาลเวลา ปัจจุบันก็ยังคงนิยมใช้อ้างอิงกันอยู่ ดังนี้...

หุ้นโตช้า (Slow Growers) ซึ่งเป็นหุ้นกิจการขนาดใหญ่ ธุรกิจค่อนข้างอิ่มตัว ปันผลดีสม่ำเสมอ แต่ราคาไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่

หุ้นแข็งแกร่ง (Stalwarts) ก็เป็นหุ้นกิจการขนาดใหญ่เช่นกัน มีชื่อเสียง โดยธุรกิจเติบโตเรื่อยๆ ไม่หวือหวา เป็นหุ้นที่ปลอดภัยอยู่รอดได้แม้เกิดวิกฤต

หุ้นเติบโต (Fast Growers) ซึ่งหุ้นประเภทนี้ ส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดเล็ก อยู่ในช่วงขยายธุรกิจ มี Story ในการเติบโต และมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาไม่นาน

หุ้นวัฏจักร (Cyclical) หุ้นประเภทนี้ เป็นกิจการขายสินค้าโภคภัณฑ์ หรือสินค้าเกษตร ที่มีรายได้เป็นฤดู โดยกำไรขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจ และราคาของสินค้านั้นๆ

หุ้นฟื้นตัว (Turnaround) กลุ่มนี้กิจการเคยแย่ หรือขาดทุนมาก่อน แต่กำลังมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน มีโอกาสทำกำไรได้มาก แต่ความเสี่ยงก็มากเช่นกัน

และประเภทสุดท้าย คือ หุ้นสินทรัพย์มาก (Asset Play) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกิจการที่มีสินทรัพย์ เช่น ที่ดิน เงินสด หรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่ยังไม่รับรู้มูลค่าเต็มที่ซ่อนอยู่ในงบดุล

นอกจากนี้ นการแบ่งประเภทหุ้น คุณต้องเข้าใจว่าบางกรณีแม้จะเป็นหุ้นตัวเดียวกัน การจัดเข้ากลุ่มของคุณก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันกับคนอื่น ซึ่งการจัดกลุ่มต้องแล้วแต่ความเข้าใจและมุมมองอนาคตที่มีต่อหุ้นตัวนั้น

มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯขอยกตัวอย่างให้ชัดเจนขึ้น เช่น หุ้นสนามบินแห่งหนึ่ง บางคนอาจมองเป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) เพราะรายได้โตอย่างมากต่อเนื่องมาหลายปี และน่าจะยังคงเติบโตต่อไป แต่บางคนก็อาจจะมองต่างจากคุณ โดยมองเป็นหุ้นแข็งแกร่ง (Stalwarts) เพราะเขาอาจคิดว่าจะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้โตก้าวกระโดดอย่างที่เป็นมาหลายปี ดังนั้นจึงอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน

หลังจากที่คุณเข้าใจแล้วว่า หุ้นที่คุณจะเข้าลงทุน เป็นหุ้นประเภทไหน หรือกลุ่มไหน หรือหุ้นตัวไหน ที่จะทำให้คุณมีกลยุทธ์การลงทุนที่ถูกต้อง และเหมาะกับตัวคุณแล้ว การลงทุนในหุ้นครั้งนี้ของคุณ ก็จะนำไปสู่ผลตอบแทนระยะยาวตามที่คุณต้องการ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ก.ค. 2562 เวลา : 08:05:49
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 3:47 am