คุณอาจจะเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่เป็นผู้ลงทุนเมื่อก้าวลงสู่สังเวียนตลาดหุ้นแล้ว แต่มักจะมีเสียงบ่นเล็กๆ หรือพูดลอยๆ เออ! จะเลือกหุ้นตัวไหนดีหรือบางครั้งคุณอาจจะเฮโล ตามเสียงมาตามสาย ตามไลน์ ตามพายกระซิบ ให้เล่นตัวนั้นตัวนี้ ก็เฮโลตามเขาเข้าไปเล่นแต่ต้องขอบอก ถ้าคุณตกอยู่ในอาการนี้ น่าเป็นห่วงและมีความเสี่ยงสูงมาก โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นมือใหม่สายหุ้น เพราะการเล่นตามกระแสแบบนี้ แสดงว่าคุณแห่ซื้อตาม โดยไม่รู้ว่าบริษัทที่คุณลงทุนตาม เขาดำเนินกิจการอะไรกันอยู่
ดังนั้นมิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงอาสามาบอกถึงวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้จักบริษัทในแง่มุมต่างๆ มากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ วิธีการอ่านแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) ซึ่งเป็นรายงานการเปิดเผยข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียนจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปีและมีการเผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับข้อมูลในแบบ 56-1 แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่...
ส่วนที่หนึ่งก็คือข้อมูล การประกอบธุรกิจ เป็นการแสดงแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายและภาพรวมการประกอบธุรกิจ ลักษณะการประกอบธุรกิจ ปัจจัยความเสี่ยง ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ข้อพิพาททางกฎหมาย และข้อมูลทั่วไปและข้อมูลสำคัญอื่น
เมื่ออ่าน 56-1 ส่วนที่ 1แล้ว คุณต้องเข้าใจข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท และต้องสามารถสรุปออกมาให้ได้เป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้บริษัทที่คุณจะลงทุน เขาทำธุรกิจอะไร และมีแผนจะทำอะไรต่อไป มีแนวโน้มในการเติบโตมากน้อยเพียงไร มีปัจจัยเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยงอย่างไร
นอจากนี้มีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างที่จะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทที่คุณเข้าไปลงทุน
อีกทั้งต้องสรุปให้ได้ว่าบริษัทนั้นๆ มีข้อพิพาททางกฎหมายหรือไม่ อย่างไรมีบริษัทย่อยและบริษัทร่วมกี่บริษัท บริษัทดังกล่าวทำธุรกิจอะไรมีรายการระหว่างบริษัทจดทะเบียน บริษัทรายย่อยและบริษัทร่วมหรือไม่ อย่างไร
ขณะเดียวกันบริษัทที่คุณลงทุนมีศักยภาพในการแข่งขันมากน้อยเพียงไร โครงการในอนาคตและการวิจัยและพัฒนาเป็นอย่างไร
ส่วนที่สอง ก็คือการจัดการและการกำกับดูแลกิจการ เป็นการให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลหลักทรัพย์และผู้ถือหุ้น โครงสร้างการจัดการ การกำกับดูแลกิจ การความรับผิดชอบต่อสังคม การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง รวมถึงรายการที่เชื่อมโยงระหว่างกัน
เมื่อคุณอ่านส่วนที่สองแล้ว คุณต้องสรุปให้ได้เป็นประเด็นต่างๆได้แก่ บริษัทที่คุณเข้าไปลงทุนนั้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือใคร มีการกระจายหุ้นแก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างไร
โครงสร้างการบริหารเป็นอย่างไร ผู้บริหารบริษัทเป็นใคร มีการจ่ายค่าตอบแทนอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ ใครเป็นกรรมการบริษัทกรรมการตรวจสอบมีขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบและจ่ายค่าตอบแทนอย่างไร และมีการดูแลผู้ถือหุ้น พนักงาน บุคลากร และผู้มีส่วนได้เสียอย่างไร
ขณะเดียวกันบริษัทที่คุณเข้าไปลงทุน มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of interests) หรือไม่ อย่างไร มีการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลที่ดี (Corporate governance : CG) อย่างไร รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบเป็นอย่างไร
ดังนั้นเมื่ออ่าน 56-1 แล้ว คุณจะประเมินได้เบื้องต้นว่า บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดี น่าลงทุนหรือไม่
ส่วนที่สาม ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน เป็นการให้ข้อมูลทางการเงินต่างๆของบริษัท ทั้งงบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบกระแสเงินสด และอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ นอกจากนี้ยังแสดงการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและคำอธิบายเพิ่มเติมของฝ่ายจัดการด้วย
เมื่ออ่านส่วนที่ 3 แล้ว ต้องสรุปให้ได้เป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้ผู้สอบบัญชีให้ความเห็นต่องบการเงินไว้อย่างไร ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร โครงสร้างเงินทุน (หนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น) เป็นอย่างไร
ในช่วงปีที่ผ่านมามีการออกหุ้นเพิ่มทุน ออกหุ้นกู้แปลงสภาพหรือซื้อหุ้นคืนหรือไม่อย่างไร มีภาระทางการเงินมากน้อยเพียงใด
ดังนั้นหากคุณอ่าน 56-1 แล้ว ยังมีคำถามที่สงสัย ควรตั้งคำถามเตรียมไว้ถามนักวิเคราะห์หรือผู้บริหารเมื่อมีโอกาส
สำหรับข้อมูลในแบบ 56-1 เปรียบเสมือน “ขุมทรัพย์” ที่อยู่ใกล้ตัวคุณที่สำคัญยังช่วยให้คุณเข้าใจธุรกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี และยังทำให้คุณมีความมั่นใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น
การเลือกใช้วิธีอ่านข้อมูลในแบบ 56-1 ย่อมดีกว่าการซื้อขายหุ้นซึ่งรู้แค่ชื่อย่อบริษัทและไม่รู้เลยว่าบริษัทที่คุณลงทุนทำธุรกิจอะไร
ข่าวเด่น