“บล.บัวหลวง”เผยวอลุ่มซื้อขาย Block Trade เดือนมิ.ย.“พุ่งสูงสุดในรอบปี” รับฤดูกาล Rollover
หลักทรัพย์บัวหลวงสรุปภาพรวมตลาด Block Trade เดือนมิ.ย. แรงดีไม่มีตก หลังมีหุ้นอ้างอิงใหม่ยกขบวนพาเหรดเข้าเทรดเพิ่มขึ้น จาก 93 หุ้น เป็น 112 หุ้น ขณะที่ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันพุ่งสูงสุดในรอบปีแตะ 5,394 ล้านบาท รับฤดูกาล Rollover จากช่วงหมดสัญญาของ Series M19
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการธุรกรรม Block Trade ที่มีส่วนแบ่งการตลาด เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขาย SSF Block Trade ในเดือนมิถุนายน 2562 ระดับ 9.16% เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 6.80% ตามตลาดต่างประเทศ จากปัจจัยราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ,ธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ย ,สงครามการค้าส่งสัญญาณดีขึ้น ,บรรยากาศการเมืองไทยมีความชัดเจน บวกกับมีหุ้นอ้างอิงเข้าใหม่ 19 หุ้น จาก 93 หุ้น เป็น 112 หุ้น และเป็นช่วงฤดูกาล Rollover จากการหมดอายุสัญญาของ Series M19 ส่งผลให้ตลาด Single Stock Futures ในเดือนมิ.ย.มีปริมาณการซื้อขายคึกคัก
โดยมีปริมาณการซื้อขายธุรกรรม Block Trade ฟิวเจอร์อ้างอิงหุ้นรายตัวเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5,394 ล้านบาท เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่มีปริมาณการซื้อขายเท่ากับ 2,793 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 11.90% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นอ้างอิงบนกระดานหลัก ขณะที่มีจำนวนสัญญา Block Trade คงค้าง ณ สิ้นเดือนทั้งสิ้น 2,770,287 สัญญา คิดเป็น 85.68% ของสัญญาอนุพันธ์คงค้างรวม จาก 2,285,705 สัญญา ลดลง 22.65% ของจำนวนสัญญาคงค้างวันสุดท้ายของเดือน และมีมูลค่าสถานะคงค้างเฉลี่ยรายวันคิดเป็น 26,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 24,325 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.27%
ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีหุ้นอ้างอิงที่ทำธุรกรรม Block Trade เพิ่มขึ้นจาก 93 หุ้น เป็น 112 หุ้น ซึ่งหุ้นอ้างอิงที่ได้รับความนิยมสูงสุด อันดับหนึ่ง คือ หุ้นอ้างอิง AOT ที่มีการซื้อขายสูงถึง 10.70% หลังจาก King Power ชนะการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้ง 3 สัญญา โดย King Power เสนอผลตอบแทนขั้นต่ำรวม 23,000 ล้านบาท แต่ยังคงมีประเด็นจำนวนนักท่องเที่ยวกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งอย่างต่อเนื่อง
อันดับสอง คือหุ้นอ้างอิง CPALL ที่มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 10.17% นักลงทุนต่างมองกลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์จากการเมืองไทยที่มีความชัดเจนมากขึ้น บวกกับอานิสงส์นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่มุ่งเป้าที่การบริโภคของภาคเอกชน และอีกประเด็นที่ CPALL ยังมีแผนขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง 700 สาขา และให้ครบ 13,000 สาขา ภายในปี 2564 มองยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังเป็นประเด็นกดดันอย่างการขยายสาขาของ MAKRO ในต่างประเทศอาจไม่ประสบความสำเร็จ
อันดับสาม คือหุ้นอ้างอิง JAS ที่มีสัดส่วนการซื้อขาย 4.27% ถูกเป็นหุ้นน่าจับตามอง จากการจะถูกเข้าคำนวณ SET100 รอบใหม่ และปัจจุบัน JAS ได้เข้า SET100 ตามคาด นักลงทุนต่างมอง JAS ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ด้วยกำไรที่ลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
“กลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจซื้อขายมากสุดในเดือนที่ผ่านมา คือ กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ,กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ,กลุ่มพาณิชย์ โดยมีมูลค่าซื้อขายคิดเป็น 22.44% 15.06% และ 12.42% ตามลำดับ ส่วนมูลค่าสัญญาคงค้างเฉลี่ยบนหุ้นอ้างอิง 5 อันดับสูงสุด คือ AOT รองลงมา คือ CBG, JAS, PTTGC และ BANPU ตามลำดับ”
เอ็มดีหลักทรัพย์บัวหลวง กล่าวต่อว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ตลาด TFEX มีการปรับหุ้นอ้างอิงเข้าซื้อขายเพิ่มขึ้น มองว่าธุรกรรม Block Trade ยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะเริ่มมีหุ้นให้เลือกมากขึ้น และหุ้นอ้างอิงที่เข้าเกณฑ์ส่วนใหญ่เป็นหุ้นยอดนิยม ซึ่งนักลงทุนที่เลือกลงทุน ผ่านธุรกรรม Block Trade ก็มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ใกล้เคียงกับการซื้อหุ้นบนกระดาน
ทั้งนี้หลักทรัพย์บัวหลวงได้มีการคัดกรองหุ้นที่สามารถทำธุรกรรม เพื่อช่วยลดความความเสี่ยง และยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุน Block Trade ด้วยการจัดอบรมพร้อมให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ลงทุน สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ BLS Customer Service โทร 02 618-1111
ข่าวเด่น