นอกจากการลงทุนในตลาดหุ้นสำหรับมือใหม่ มันแสนจะยากแล้วแต่สิ่งที่ยากที่สุด นั่นก็คือ การคาดการณ์ตลาดหุ้น เพราะการจะคาดว่า ณ จุดใด เป็นจุดเริ่มต้นของภาวะตลาดกระทิงแล้ว ยังเป็นจุดที่หากใครคาดเดาถูก ถือว่าคุณประสบความสำเร็จในการลงทุน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะพยายามสรรหาวิธีต่างๆนานา เพื่อให้รู้ว่าเมื่อใดจะเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะตลาดขาขึ้น
ตามทฤษฎีแล้วถ้าดัชนีตลาดหุ้นขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 20% ถือว่าเป็นตลาดกระทิง แต่ด้วยปัจจัยหลากหลายที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น จึงมีโอกาสทำให้เกิดความไม่แน่นอนได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากคุณมองไม่ออกว่าจุดไหนกำลังเริ่มเป็นขาขึ้น วันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯช่วยบอก 5 เทคนิคที่ดูสัญญาณตลาดกระทิงแบบง่ายๆ ดังนี้
การปรับตัวขึ้นของกลุ่มอุตสาหกรรม ในภาวะตลาดขาขึ้น คุณมักต้องการ “ซื้อ” มากกว่า “ขาย”เพราะมองว่าเศรษฐกิจกำลังจะดีในอนาคต แต่การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นก็ไม่ได้ปรับไปในทิศทางเดียวกันหมด เพราะยังมีบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะปรับขึ้นนำหน้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งจะเป็นสัญญาณให้จับทิศทางได้ เช่น หุ้นกลุ่มการเงิน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและกลุ่มค้าปลีก ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่บ่งบอกสัญญาณขาขึ้น
หรือการสังเกตดูว่า ผู้ลงทุนรายใหญ่เริ่มขายหุ้นที่เป็นหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) หรือหุ้นที่ขยับลงไปไม่มาก เช่น เมื่อตลาดหุ้นปรับลง และหันมาซื้อหุ้นใน 3 กลุ่มดังกล่าว จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า พวกเขามั่นใจในภาวะตลาดเพียงใด
การดูดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญขยับขึ้น เพราะในช่วงเศรษฐกิจถดถอย คุณมักจะชาชินกับการปรับลดลงของดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจต่างๆ แต่เมื่อเศรษฐกิจดี ตัวเลขเหล่านี้ย่อมบอกได้เช่นกัน โดยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่รู้จักกันดี คือ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) แต่ยังมีอีกหลายตัวที่ต้องจับตาไปด้วย เช่น ตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการผลิตภาคอุตสาหกรรม การลดลงของอัตราการว่างงานอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและประชาชน ซึ่งช่วยบอกถึงทิศทางของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นได้
นอกจากนี้ควรดูดัชนีค่าระวางเรือขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจสงสัยว่าดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) เกี่ยวข้องอย่างไร เพราะปกติก็ใช้แต่เพียงเป็นตัวเลขอ้างอิง สำหรับการลงทุนในหุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือเท่านั้น แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว การขนส่งสินค้าย่อมมากขึ้นตามมา โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าประเภทวัตถุดิบ เช่น เหล็ก ถ่านหิน ธัญพืช ซึ่งส่วนใหญ่นิยมขนส่งทางเรือ เพราะมีค่าใช้จ่ายถูกที่สุดและขนส่งได้ทีละมากๆ การสังเกตุดัชนีค่าระวางเรือ จึงช่วยบ่งชี้ได้มากว่า ณ เวลานี้ความต้องการใช้เรือเป็นอย่างไรบ้าง
การลดค่าของสินทรัพย์ในตลาดเงิน เนื่องจาก“ตลาดทุนชอบข่าวดี ตลาดเงินชอบข่าวร้าย” โดยตามปกติแล้ว เมื่อนักลงทุนมีมุมมองที่ไม่ดีต่อเศรษฐกิจ ก็มักจะโยกย้ายเงินลงทุนจากตราสารที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น หุ้น หรืออนุพันธ์) ไปยังตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า (เช่น พันธบัตร หรือ หุ้นกู้ และเงินฝาก) ดังนั้นในภาวะตลาดซบเซา ตราสารในตลาดเงินจึงมีราคาขยับขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาวะตลาดหุ้น กลับสู่กระทิง หรือยังก็ต้องดูว่าความต้องการสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำในตลาดเงิน ลดลงจนราคาขยับลงมาบ้างหรือยัง
ดัชนีตลาดหุ้นที่มีเสถียรภาพ เป็นสัญญาณหลักที่มักใช้ตัดสินภาวะตลาดขาขึ้น หรือตลาดกระทิง แต่อย่าถูกภาพลวงตาของตลาดหุ้นหลอก เพราะดัชนีตลาดหุ้นสามารถเกิดการรีบาวด์ในช่วงสั้นๆได้ แต่ไม่ยั่งยืน โดยการที่ตลาดหุ้นจะเป็นกระทิงได้นั้น ต้องมีการขยับขึ้นเป็นแนวโน้มที่ชัดเจน
เมื่อคุณรู้จัก 5 สัญญาณ ที่พอบอกถึงทิศทางตลาดขาขึ้นกันไปแล้ว ต้องอย่าลืมไปสังเกตดูอีกครั้ง โดยช่วงแรกๆ อาจยากและซับซ้อน แต่หากหมั่นสังเกตและนำมาวิเคราะห์ภาวะตลาดบ่อยๆ คุณก็จะมองเห็นกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีออกสักวันและจะทำให้คุณสามารถวางแผนการลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของตลาดได้ดีขึ้น
ข่าวเด่น