ช่วงเวลาของการลงทุนที่คุณจะรู้สึกมีความสุขมากที่สุดนั้นก็คือ จังหวะทำกำไรก้อนโตจากการลงทุน ในช่วงตลาดหุ้นกระทิงหรือจังหวะขาขึ้น เรียกว่า ไม่ว่าคุณจะซื้อหุ้นตัวไหนก็ขึ้น จับหุ้นตัวไหนก็เข้าเป้าไปหมด กลับบ้านอย่างสำราญใจ ก็แหม! กระเป๋าตุงกลับบ้าน ไม่หน้าบานก็ไม่ว่ารู้จะว่างัย แต่อาการแบบนี้บางครั้งอาจทำให้เกิดหายนะกับคุณได้เสมอ เพราะคุณจะเกิดอาการหลงระเริง ซึ่งอาจทำให้คุณมองข้ามความผิดพลาดบางอย่าง ที่คุณควรหลีกเลี่ยงในการลงทุน เพราะไม่เช่นนั้น มันจะพาคุณต้องจบลงด้วยคำว่า “ขาดทุน”
ดังนั้นมิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเตือนใจคุณในฐานะผู้ลงทุน ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า หากคุณไม่อยากจบแบบช้ำๆตลอดเวลา จากกำไร เป็นกรรม“ขาดทุน” คุณต้องลองมาดูกัน 5 ความผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง แม้ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะกระทิง นั่นก็คือ...
ความผิดพลาดที่ 1 ทุ่มเงินหมดหน้าตักเร็วเกินไป แน่นอนว่าภาวะตลาดที่ปรับตัวขึ้นมาย่อมทำให้คุณตื่นเต้นไปกับผลกำไรที่ทำได้ โดยเฉพาะช่วงที่คุณย่ำแย่มาจากวิกฤติในช่วงก่อนหน้า ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่คุณเกิดอาการอยากเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก สิ่งที่คนเล่นหุ้นหลายคนชอบทำ ก็คือ กระโจนเข้าไปทยอยซื้อหุ้นอย่างรวดเร็ว จนเงินหมดหน้าตัก ด้วยความคิดที่ว่าต้องรีบซื้อเดี๋ยวหุ้นขึ้นหนีไปไกล
แต่อย่าลืมว่า... ภาวะตลาดกระทิงที่หุ้นขึ้น มักจะมีอาการผันผวนสูงและหุ้นพร้อมที่จะปรับฐาน หลังจากขึ้นไปรอบใหญ่ ซึ่งคุณไม่มีทางคาดการณ์ได้ ว่าเวลานั้นๆเป็นจังหวะที่ดีต่อการซื้อหุ้นแล้วหรือยัง การลงทุนในภาวะตลาดแบบนี้ คุณต้องใจเย็น รู้จักรอจังหวะและถือเงินสดเก็บไว้ เพราะเมื่อมีเงินสดในมือมาก ย่อมหมายความว่ามีกลยุทธ์ให้เลือกใช้ได้มากตามภาวะตลาด
ความผิดพลาดที่ 2 ไม่กระจายความเสี่ยง เรื่องนี้พลาดกันมากและบ่อยครั้ง เวลาที่หุ้น เป็นขาขึ้นนักลงทุนมักแสวงหาทางเลือกลงทุนที่ให้ ผลตอบแทนมากที่สุด แล้วอดไม่ได้ที่จะ ทุ่มเงินทั้งหมดลงไปเพื่อหวังผลตอบแทนสูงๆ ทำให้เกิดการกระจุกตัวของการลงทุนไปยังหุ้นตัวใดตัวหนึ่งหรือในกลุ่มอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมากเกินไปแน่นอนว่า ในระยะสั้นอาจเกิดผลดี ทำให้ยิ่งทุ่มเงินลงไปในหุ้นนั้นๆมากขึ้นไปอีก
ความเป็นจริงในภาวะตลาดกระทิงหุ้นทุกกลุ่ม มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอยู่แล้ว แค่ช้าหรือเร็ว เท่านั้นกลุ่มธนาคาร และสถาบันการเงิน อาจจะขึ้นก่อน แต่สุดท้ายทุกกลุ่มย่อมได้รับอานิสงค์จากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ดังนั้นการกระจาย การลงทุนก็ไม่ได้ทำให้เสียประโยชน์ โดยเฉพาะตลาดมีความผันผวนมาก
ความผิดพลาดที่ 3 หลีกเลี่ยงการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ผู้ลงทุนอเมริกันหรือยุโรป ต่างได้เรียนรู้บทเรียนที่ว่าตลาดที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ตลาดที่น่าสนใจที่สุดเสมอไป ในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปกำลังย่ำแย่ แต่เศรษฐกิจของเอเชียกำลังสดใสและเงินทุนกำลังวิ่งเข้าหา ผู้ลงทุนที่ไม่ได้กระจายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ อาจกำลังเสียโอกาสอยู่ก็ได้
ความผิดพลาดที่ 4 ไม่ยึดมั่นกับแผนการลงทุนของตนเอง การวางแผนการลงทุน ผู้ลงทุนน่าจะพอเข้าใจแล้วว่าต้องมีการบริหารจัดการอย่างไร ต้องพิจารณาจากอะไร แต่ในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นคุณและผู้ลงทุนอีกหลายคน มักจะไม่ทำตามแผนนั้น เช่น เปลี่ยนมาถือหุ้นมากเกินไป
ซึ่งในความจริงแล้ว สัดส่วนของการวางแผนลงทุนนั้นเปลี่ยนแปลงได้บ้างตามสถานการณ์ แต่ต้องไม่ลืมคุณควรหมั่นตรวจสอบและปรับอยู่เสมอ โดยยึดเป้าหมายหลัก เช่น ตั้งใจจะเก็บเงินวัยเกษียณ ต้องไม่หันมาลงทุนในหุ้นจนเสี่ยงมากเกินไป
ความผิดพลาดที่ 5 ไม่ทำการบ้าน เวลาตลาดหุ้นเป็นภาวะกระทิง การลงทุนจะดูเหมือนง่ายขึ้นมาก ซื้อตัวไหน ลงทุนตัวไหน ก็มีโอกาสกำไรมาก ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้คุณละเลยการทำการบ้าน โดยเฉพาะการมองการลงทุนแบบระยะยาว อย่าลืมว่า ภาวะกระทิงไม่ได้คงอยู่กับเราถาวรตลอดไป
อย่างไรก็ดีไม่ว่าภาวะตลาดหุ้นจะเป็นตลาดกระทิง หรือตลาดหมี คุณต้องหมั่นทำการบ้านด้วยการศึกษาตัวบริษัทอยู่เสมอๆ แม้ในระยะสั้นคุณอาจหันไปเก็งกำไรได้บ้าง แต่ในระยะยาวต้องกลับมาลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานด้วย เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
ดังนั้นความผิดพลาดและความผิดหวังไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แต่เป็นเรื่องที่คุณและทุกคนต้องเจอ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณ ในฐานะผู้ลงทุนทุกคนควรทำ นั่นคือการเรียนรู้และเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดอย่างมีสติ แค่นี้ คุณก็สามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนได้นะจะบอกให้
ข่าวเด่น