สำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ อาจจะยังมีความไม่ลึกซึ้งถึงการเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้เกิดคำถามมากมายในตัวคุณ
เอ! บริษัทเพิ่มทุนแล้วนำเงินก้อนโตนี้ไปทำอะไรกันบ้าง
ถ้าได้สิทธิในหุ้นเพิ่มทุน คุณควรจะจองซื้อ หรือใช้สิทธิหุ้นเพิ่มทุนนี้หรือไม่
หรือถ้าเพิ่มทุนแล้ว เขาจะทำให้เงินคุณโตขึ้นหรือไม่
ดังนั้นวันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมาช่วยไขข้อสงสัยและคำถามมากมายที่เกิดขึ้นในตัวคุณให้ชัดเจนขึ้น และก่อนที่คุณจะไปกังวลกับปัญหามากมายขนาดนั้น เรามาทำความเข้าใจกับ “การเพิ่มทุน” กันก่อน
การเพิ่มทุน (Capital Increase) ก็คือ การที่บริษัทออกหุ้นใหม่หรือที่เรียกว่า “หุ้นเพิ่มทุน” เพิ่มเติมจากหุ้นเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยบริษัทจะนำ “หุ้นเพิ่มทุน” ไปเสนอขายให้กับผู้ที่สนใจ เช่น ผู้ถือหุ้นเดิม ผู้ลงทุนสถาบัน หรือผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งสิทธิประโยชน์ของหุ้นเพิ่มทุนจะเหมือนกับหุ้นเดิมของบริษัททุกประการ
ขณะที่วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบริษัท ได้แก่นำไปขยายกิจการ เพื่อคาดหวังยอดขายเติบโต ส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต นำไปใช้หนี้เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลด นำไปล้างขาดทุนสะสม เพื่อให้บริษัทมีกำไรและสามารถจ่ายเงินปันผลได้
ดังนั้นการเพิ่มทุนแต่ละครั้ง คุณต้องพิจารณาว่าบริษัทจะนำเงินคุณไปทำอะไรที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคุณในฐานะผู้ถือหุ้น
มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯขอเน้นย้ำ นอกจากคุณต้องดูวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนที่เป็นกุญแจสำคัญแล้ว คุณต้องรู้ด้วยว่า...
การซื้อหุ้นในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XR (Excluding Rights) คุณจะไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน หากคุณอยากได้หุ้นเพิ่มทุน คุณต้องซื้อหุ้นก่อนวัน XR คุณจึงจะได้สิทธิดังกล่าว
การเพิ่มทุนทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นและราคาหุ้นลดลง หรือที่เรียกว่า “Dilution Effect" นั่นเอง
ตัวอย่างเช่น หุ้น XYZ มีราคาตลาด 20 บาทต่อหุ้น ต่อมาหากบริษัทมีการเพิ่มทุน ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ (2:1) โดยให้สิทธิซื้อหุ้นในราคา 10 บาทต่อหุ้น
ถามว่า ราคาหุ้น XYZ หลังเพิ่มทุนจะเป็นเท่าใด?
ราคาตลาดหลังเพิ่มทุน = [(อัตราหุ้นเดิม x ราคาก่อนวัน XR) + (อัตราหุ้นเพิ่มทุน x ราคาสิทธิ)] / (จำนวนหุ้นเดิม + จำนวนหุ้นเพิ่มทุน)
= [(2 x 20) + (1 x 10)] / (2 + 1)
= 16.66 บาทต่อหุ้น
การเพิ่มทุนทำให้กำไรต่อหุ้น (Earning per Share : EPS) ลดลง เนื่องจากกำไรสุทธิเท่าเดิม แต่ตัวหาร คือ จำนวนหุ้น เพิ่มมากขึ้น ทำให้กำไรต่อหุ้นลดลง
อ่านมาถึงตรงนี้ นักลงทุนมือใหม่อาจสงสัยว่า... ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าหลังเพิ่มทุนราคาหุ้นจะลดลง กำไรต่อหุ้นก็จะลดลง แล้วนักลงทุนควรตัดสินใจหรือควรทำอย่างไร?
และนี่เป็นวิธีการเบื้องต้น ที่มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯนำมาบอกเล่า ให้คุณเตรียมไว้เพื่อรับมือกับการเพิ่มทุนของบริษัท
สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือ ถามตัวคุณเองก่อนตัดสินใจ โดยคุณต้องพยายามตอบให้ได้ทุกคำถามว่า
การเพิ่มทุนของบริษัทเป็นการรบกวนเงินในกระเป๋าของคุณหรือไม่?
ถ้าราคาตกจะทำอย่างไร ขายทิ้งหรือยังรอให้ขึ้นได้?
และถ้าคุณรอได้ คุณจะรอได้จนถึงเมื่อไหร่?
ตรวจสอบวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ ถ้าวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนชัดเจน มั่นใจว่าเงินที่จ่ายไป จะทำให้ธุรกิจเติบโต ราคาหุ้นจะกลับขึ้นมาใหม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณควร “ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน”
แต่หากวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนไม่ชัดเจน หรือบริษัทไม่สามารถคลายความสงสัยบางอย่างได้ก็ “ไม่ควรลงเงินเพิ่ม” เพราะจะทำให้คุณเสียเวลาเปล่า
ติดตามผลการดำเนินงานของบริษัท เมื่อคุณตัดสินใจใช้สิทธิเพิ่มทุนไปแล้ว อย่าลืมติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทมีคืบหน้าไปในทิศทางบวกหรือลบ กิจการเจริญเติบโตขึ้นหรือไม่
หากบริษัทที่คุณเข้าไปเพิ่มทุน ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณ เพื่อตัดสินใจจะถือหุ้นของบริษัทนี้ต่อหรือขายทิ้ง
แต่ต้องขอเตือนคุณไว้ตรงนี้ว่า “การเพิ่มทุน” เป็น “ภาระของผู้ถือหุ้น” คุณต้องไม่ละเลยที่จะต้องมองทุกอย่างด้วยความรอบคอบ เพราะการเพิ่มทุนบางครั้ง อาจทำให้บริษัทได้กำไรมากกว่าเดิม ธุรกิจขยับขยายได้มากขึ้น สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้คุณในระยะยาวได้
ดังนั้นการมองโลกเพียงมุมเดียวอาจทำให้คุณเสียโอกาสที่ดีไปอย่างน่าเสียดายก็ได้เช่นกัน
ข่าวเด่น