หุ้นทอง
SUPEREIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี เริ่มซื้อขาย21ส.ค.นี้


กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กองแรก จะเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมซื้อขาย 21 ส.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,150 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SUPEREIF"


นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์ฯยินดีต้อนรับ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในกลุ่มทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SUPEREIF" ในวันที่ 21 สิงหาคม 2562

SUPEREIFลงทุนในรายได้สุทธิที่เกิดจากการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาดเล็กมาก (VSPP) ของ บริษัท 17 อัญญวีร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งหมด 19 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 118 เมกะวัตต์ รายได้หลักของโรงไฟฟ้าจะมาจากการขายไฟฟ้าให้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง (แล้วแต่กรณี) โดยโครงการได้รับสัญญารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบอัตรารับซื้อไฟฟ้าคงที่ หรือ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 5.66 บาทต่อหน่วยมีระยะเวลาของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแต่ละโครงการคงเหลือประมาณ 21-22 ปี (นับจากเดือนสิงหาคม 2562) และโรงไฟฟ้าแต่ละโครงการได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์มาแล้วเป็นเวลากว่า 3 ปี

โดย SUPEREIF เสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้จองซื้อทั่วไป ระหว่างวันที่ 22-26 และ 30-31 กรกฎาคม 2562 ผู้จองซื้อพิเศษและผู้สนับสนุน ในวันที่ 5 สิงหาคม 2562 จำนวน 515 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 5,150 ล้านบาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เป็นบริษัทจัดการกองทุน และ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า SUPEREIF เป็นกองทุนที่ลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดย บลจ. ได้พิจารณาและประเมินศักยภาพของทรัพย์สินแล้วว่า สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่อง จากการที่โครงการโรงไฟฟ้ามีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว ซึ่งมีอายุคงเหลือประมาณ 22 ปี และมีการกำหนดอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่แน่นอนกับกฟภ.และกฟน. ดังนั้นการลงทุนในกองทุน SUPEREIF จึงเป็นโอกาสและทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่จะได้มีส่วนร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวและสม่ำเสมอ

SUPEREIF มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง โดยรวมแล้วในแต่ละรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว ภายหลังการเสนอขายหน่วยลงทุน SUPEREIF มีผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ บมจ. ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) ถือหน่วยลงทุน 20.00% บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุน 9.07%และบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุน 9.07%
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ส.ค. 2562 เวลา : 18:35:06
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 7:28 am