ดัชนีดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ในที่สุด หลังจากก่อนหน้านั้นมีการปรับตัวลงแรงในลักษณะกระโดดเปิด GAP โดยหลุดลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและหลุดแนวรับระดับ 1,600 จุดอีกด้วย ก่อนที่ดัชนีจะประคองตัวดีดกลับขึ้นมายืนปิดเหนือ 1,600 จุดได้ในที่สุด อีกทั้งยังมีลุ้นปิด GAP และปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 1,649 จุดอีกด้วย
หากวันนี้(26ส.ค.)ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1,643 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นขึ้นผ่าน 1,649 จุด ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,657 จุดอีกครั้ง โดยมีแนวรับหลักระยะสั้นที่เส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน 1,637-1,635 จุด ไม่หลุดปิดต่ำกว่านี้ดัชนียังมีลุ้นขึ้นต่อได้ต่อไป
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น TFG มีแนวรับ 5.05 บาท แนวต้าน 5.25 , 5.45-5.55 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์และกำลังมีขยับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบเดือนครึ่งอีกด้วย ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก
ในขณะที่ MACD กำลังไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง หลังจากไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์ หากวันนี้(26) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าแถวๆ 5.05 บาทอีก ระดับราคาน่าจะลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 5.25 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 5.45-5.55 บาทต่อไป
หุ้น SRICHA มีแนวรับ 10.00 , 9.80 บาท ส่วนแนวต้าน 10.90 , 11.60 , 12.10 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ต่อเนื่องและขยับขึ้นทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ และผ่านขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้ พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ MACD เริ่มดีดกลับไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์
หากวันนี้ระดับราคาถอยกลับลงมาแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 10.00-9.80 บาทอีก ยังน่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อได้แถวๆ 10.90-11.60 บาทต่อไป
และหุ้น AU โดยมีแนวรับ 14.60-14.30 บาท ส่วนแนวต้าน 15.10-15.20 , 15.70 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ปิดในระดับสูงสุดไม่ได้ ในขณะที่ MACD กำลังดีดกลับแต่ยังไม่พ้นระดับศูนย์
หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่า 14.30 บาทซะก่อนหรือเต็มที่ไม่หลุดลงไปทำ New low ต่ำกว่า 13.80 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 15.10-15.20 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อได้แถวๆ 15.70 บาทต่อไป
ด้านตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 13.00 น วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,494.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,513.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงลดลง 18.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เริ่มปรับตัวลงหลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลดลง
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,492.42-1,512.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำโลกแกว่งตัวในกรอบแคบลงและเคลื่อนไหวไปในทิศทางปรับตัวลงมากกว่า หลังประเด็นความตึงเครียดสงครามการค้าจะดูเบาบางลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
และตลาดหุ้นสหรัฐและที่อื่นๆ เด้งขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ปรับลงแรงจากการที่ตลาดเริ่มคลายกังวลกับภาวะ inverted yield curve (ช่วงภาวะที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว 10 ปีให้ผลตอบแทนต่ำกว่าพันธบัตรระยะสั้น 2 ปี)
อย่างไรก็ตามตลาดยังคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป ประกอบกับประธานาธิบดีสหรัฐยังคงออกมากดดันให้เฟดรีบลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเช่นกัน
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้น โดยเปลี่ยนแปลงแข็งค่าราว 0.145 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.765 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.910 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 30.745-30.915
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้นจากที่ขายไปบริเวณเหนือ 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำรอซื้อคืนบริเวณ 1,480-1,505 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับว่าน่าจะเริ่มได้สะสมทองคำคืนกันบ้างแล้ว
แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,475 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ขายทิ้งอออกไปก่อน แล้วรอดูรอบใหม่ โดยเป้าหมายของปีนี้ยังอยู่ที่เดิมบริเวณ 1,520-1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือบริเวณเป้าหมายได้ ยังมีโอกาสขึ้นไปถึง 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นเป้าถัดไป
สำหรับนักลงทุนระยะยาวยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายของปีนี้ยังอยู่ 1,520-1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น