ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัสวันนี้ขอนำกลยุทธ์ในการบริหารพอร์ตลงทุนมานำเสนอ ซึ่งเป็นพอร์ตจำลอง ซึ่งหากไปดูผลตอบแทนที่ทำได้นับจากต้นปี 62 มา(ytd) ให้ผลตอบแทนสูงถึง 22.3%
ขณะที่ SET Index ให้ผลตอบแทน 5.7% โดยมี Alpha หรือผลตอบแทนที่มากกว่าตลาดถึง 16.5%
และหากไปดูผลตอบแทนเป็นรายเดือน พบว่าพอร์ตจำลองของฝ่ายวิจัยฯชนะตลาดถึง 8 ใน 9 เดือน ทั้งที่ตลาดผันผวนมาก สะท้อนว่าการบริหารพอร์ตทำได้ดี
เรียกได้ว่าในจังหวะที่ตลาดเป็นขาขึ้นหรือแม้กระทั่งตลาดปรับฐาน พอร์ตจำลองนี้ก็ยังบริหารให้ได้ผลตอบแทนที่สูงอย่างสม่ำเสมอเป็นที่น่าพอใจเลยครับ
ลองมาดูหุ้นที่ทำผลตอบแทนโดดเด่นสุด 5 ลำดับแรกของงพอร์ตจำลอง ก็คือ MCS, TASCO, FPT, PTTEP และ MAJOR มีรายละเอียดผลตอบแทนของหุ้นรายตัวที่ช่วยหนุนพอร์ต (Contribution Return)
นอกจากนี้หากนำพอร์ตจำลองที่บริหารมาเทียบกับผลตอบแทนกับกองทุนรวมในประเทศ พบว่าให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับกองทุนรวมหุ้นทั้งหมด 330 กองทุน
สำหรับวันนี้ฝ่ายวิจัยฯมีการปรับพอร์ตจำลอง โดยขายทำกำไร TASCO ออกไปในสัดส่วน 10% หลังจากที่หุ้น TASCO ทำผลตอบแทนได้สูงถึง 22.66% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่อยู่ในพอร์ตจำลองของฝ่ายวิจัยฯแล้วไปลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการเข้าสู่ช่วง High Season อย่าง TU ในสัดส่วน 10% แทน
โดยฝ่ายวิจัยฯมองว่าTU น่าสนใจ ให้ราคาเป้าหมาย 23 บาท แม้ว่าราคาวัตถุดิบทูน่าเฉลี่ยเดือนส.ค.62 อยู่ที่ 1.35 พันดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันสูงขึ้น12.5%(mom)ตามฤดูกาล แต่ถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ TU ยังบริหารจัดการวัตถุดิบได้ดีและน่าจะตํ่ากว่าสมมติฐานราคาวัตถุดิบทูน่าเฉลี่ยปี 2562 ที่ฝ่ายวิจัยฯให้ไว้ที่ 1.6 พันดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน
ผลบวกดังกล่าวหักล้างผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯและยูโรได้ทั้งหมด โดยตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้ คาดกำไรจากการดำเนินงานฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากฤดูกาลส่งออกทูน่าและกุ้งไปต่างประเทศ ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานปี 2562-2563 จะฟื้นตัว 19.1% yoy และ 11.4% yoy
ขณะที่กำไรสุทธิปี 2562-2563 คาดฟื้นตัว 15.6% yoy และ 48.9% yoy และราคาหุ้น TU ผ่านการปรับฐานสะท้อนผลกระทบเชิงลบด้านค่าเงิน จนมี Upside เปิดกว้างถึง 32.2% และยังคาดหวัง dividend yields เฉลี่ย 3% ต่อปี
ข่าวเด่น