หากดู Trend Line ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้สำหรับวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจการลงทุนไปตามแนวโน้ม
ดังนั้นในเชิง Trend Line ถ้ากดราคาหุ้นไว้นานเท่าไหร่ แล้ววันหนึ่งสามารถทะลุผ่านไปได้จะส่งผลทำให้สัญญาณบวกตลาดจะค่อนข้างแรงและถัดจากนั้นไม่กี่วัน Trend Line ทะลุผ่านจุดเดิม ในทางเทคนิคหมายถึงการคอนเฟิร์มว่าตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นอีกรอบ
การที่ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นอย่างรวดเร็วในบางรอบ มักเกิดคำถามและชวนให้สงสัยว่าเครื่องมือทางเทคนิคประเภทไหนที่ส่งสัญญาณว่าหุ้นไทย“ร้อนแรง”เกินไป ประเด็นนี้ ชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส บอกเล่าผ่านมิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ว่า เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่อธิบายเรื่องดังกล่าว คือ RSI (Relative Strength Index) เป็นเครื่องมือวัดการแกว่งตัวของราคาหุ้นเพื่อดูสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
ทั้งนี้ Overbought หรือ Oversold เป็นการวัดโมเมนตัมของราคาว่าในช่วงเวลาที่เรากำหนดว่าราคาปรับขึ้น(หรือปรับลง)แรงเกินไปหรือไม่
RSIจะวิ่งระหว่าง 0-100 “ถ้าวิ่งเหนือระดับ 70% แสดงว่าอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไปแต่ถ้าต่ำกว่า 30% บอกถึงขายมากเกินไป
ทั้งนี้ RSI ไม่สามารถยืนอยู่ในระดับสูงๆได้ตลอด โดยธรรมชาติจะปรับลดลงมาผ่านการปรับลดลงของราคาหุ้น“ถ้านักลงทุนเห็น RSI สูงๆอย่าไปไล่ซื้อหุ้นที่มีราคาปรับขึ้นแรง แต่ควรรอซื้อตอนที่ราคาหุ้นย่อลงมา
สำหรับนักลงทุนที่เน้นลงทุนระยะปานกลางถึงระยะยาวในภาวะตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นหากมีหุ้นอยู่แล้ว คุณไม่ควรขายทำกำไรเพราะถึงแม้ราคาหุ้นจะปรับย่อลงมาแต่สุดท้ายราคาก็จะปรับขึ้นไปอีก
RSI คำนวณมาจากค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นปรับขึ้นหารด้วยราคาที่ปรับลง ในรอบ 14 วัน ดังนั้นถ้าRSIจะปรับลดลงได้ แสดงว่าอัตราส่วนราคาที่ปรับขึ้นจะต้องปรับลดลง
ขณะเดียวกันนักลงทุนระยะสั้นบางส่วนอาจตัดสินใจขายหุ้นเพื่อทำกำไรทำให้ราคาย่อลงมา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ RSI ลดลงมา
การที่ RSI ปรับขึ้นระดับสูงถือเป็นสัญญาณที่ดี ตัวอย่างในอดีตที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไม่ค่อยเคลื่อนไหวในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถัดจากนั้นตลาดปรับขึ้นอย่างรวดเร็วและ RSI พุ่งขึ้นทะลุ 70%
มีหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นได้อีก ซึ่งในระหว่างทาง RSI จะปรับย่อลงแต่จากนั้นก็จะปรับขึ้นไปและสามารถเกิด New High ได้
ข่าวเด่น