หุ้นทอง
"ดัชนี"ประคองไม่อยู่อาจไหลแถว1,648 ก่อนดีดกลับ"ทอง"หลุดต่ำกว่า 1,484 ดอลล์ตัดขาดทุนทันที


ดัชนีมีความพยายามประคองตัวดีดกลับในช่วงท้ายตลาดหลังจากหลุดลงมาทำ New low ต่อเนื่องและหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันลงมาในระหว่างวันก่อนที่ดัชนีจะดีดกลับขึ้นปิดแถวๆเส้นดังกล่าวได้ ในขณะที่ MACD ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์ได้เล็กน้อยต่อเนื่องสามวันแล้ว

 





หากวันนี้ (16ก.ย.)ดัชนีประคองตัวดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน ที่1,663-1,664 จุดได้ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 1,670 จุด และ 1,679 จุดต่อไปแต่ถ้าหลุดลงมาต่อเนื่อง ดัชนีอาจไหลลงมาแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ 1,648 จุดก่อนจะดีดกลับได้อีกครั้ง

สำหรับหุ้นที่น่าจับตา ได้แก่ SPA ซึ่งมีแนวรับ 14.30 , 14.10 บาท แนวต้าน 14.60-14.80 , 15.10-15.20 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยสามารถประคองตัวปิดได้ในระดับสูงของวัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งทำให้ระดับราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทำ New high ต่อ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 14.30-14.10 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 14.60-14.80 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 15.10-15.20 บาทต่อไป

หุ้น ITD ก็น่าจับตามองเช่นกัน โดยมีแนวรับ 2.00-1.98 บาท และแนวต้าน 2.08 , 2.16 บาท ซึ่งระดับราคาสามารถประคองตัวปิดเหนือ 2 บาทได้ หลังจากถูกขายทำกำไรระยะสั้น เนื่องจากการปรับตัวขึ้นแรงในวันก่อนหน้าแต่มีแรงขายทำกำไรออกมาเพียงเล็กน้อย พร้อมที่จะปรับตัวขึ้นต่อตามสูตรคำนวณวอลุ่ม อีกทั้งยังมีสัญญาณ Golden cross เกิดขึ้นแล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 2.00-1.98 บาทซะก่อน น่าจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นปิด GAP ที่ 2.08 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 2.16 บาทต่อไป

และตัวสุดท้ายที่น่าจับตามองก็คือ SCB มีแนวรับ 123.50-122.50 บาท และแนวต้าน 126-128 , 130.50 บาท โดยระดับราคาสามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ หลังจากถูกขายทำกำไรระยะสั้น เนื่องจากการปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะดีดกลับขึ้นปิดในระดับสูงสุดของวันได้ในช่วงท้ายตลาด หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 123.50-122.50 บาทซะก่อน น่าจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นผ่าน 126-128 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน ที่130.50 บาทต่อไป

ด้านทองคำ สรุปภาวะในสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 10.30 น วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562 ราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,496.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,506.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์เท่ากับเปลี่ยนแปลงลดลง 10.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับลงต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังตลาดมองว่าสงครามการค้าเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวเริ่มปรับสูงขึ้นอีกครั้ง

ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,484.76-1,524.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเริ่มต้นช่วงสัปดาห์ ราคาทองคำโลกปรับตัวลงต่อจากสัปดาห์ก่อนหน้าจนราคาปิดหลุดต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในรอบ 11 วันทำการ ได้รับแรงกดดันจากสินทรัยพ์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นกลับมาบวกต่อเนื่อง หลังตลาดเห็นสัญญาณความขัดแย้งในสงครามการค้าลดลง

อย่างไรก็ตามราคาทองคำลงไปต่ำสุดที่ 1,484 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะเริ่มดีดตัวกลับหลังตลาดเก็งว่าธนาคารกลางยุโรปจะเริ่มมีมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มจะชะลอการเติบโต ซึ่งในช่วงกลางสัปดาห์ ธนาคารกลางยุโรปประกาศคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% แต่ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก 0.10% ไปอยู่ที่ระดับ -0.50% และจะเริ่มกลับมาซื้อสินทรัพย์เดือนละ 2 หมื่นล้านยูโร

ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปถึงแนวต้านสำคัญอีกครั้งบริเวณ 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อมาหลุด 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์จากข่าวจีนและสหรัฐ จะกลับมาเจรจาประเด็นสงครามการค้าอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าลง โดยเปลี่ยนแปลงแข็งค่าราว 0.190 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.435 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.625 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 30.350-30.670 บาทต่อดอลลาร์

ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ FOMC ในวันอังคารและพุธที่ 17-18 กันยายน ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25%

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้นได้ซื้อคืนบริเวณ 1,492-1,507 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกรอบแล้วและขึ้นมาเกือบถึงเป้า 1,526 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยขึ้นมาแตะ 1,524.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนใครที่ยังไม่ขายทำกำไรก็ยังถือทองคำต่อได้แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,484 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ตัดขาดทุนทันทีและรอดูอีกครั้งบริเวณ 1,440-1,460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนเป้าหมายที่สองจะอยู่ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับนักลงทุนระยะยาวยังแนะนำถือทองคำต่อไป โดยหากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ก.ย. 2562 เวลา : 08:51:06
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 9:35 am