ดัชนีมีการปรับตัวลดลงต่อ หลังจากหลุดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,650 จุด ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกับเส้นค่าเฉลี่ย 5 สัปดาห์และเส้นค่าเฉลี่ยรายวันหลายๆเส้นอีกด้วย ภาพรวมดูเหมือนไม่ค่อยดีแต่ดัชนีน่าจะลงต่ออีกไม่มากแล้วหลังจากลงมาปิด GAP ที่ 1,639 จุดเรียบร้อย อีกทั้ง MACD ที่ถอยกลับลงมาต่ำกว่าศูนย์ อาจดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือได้เร็วๆนี้อีกครั้ง
หากวันนี้ (23 ก.ย.) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาต่อเนื่องหรือหลุด 1,632 จุดซะก่อน ดัชนีอาจจะมีลุ้นดีดกลับสั้นๆได้แถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 25 วันที่ 1,646-1,648 จุด หากดัชนีปิดเหนือระดับนี้ได้ดัชนีน่าจะดีดกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่ได้ต่อไปแต่ถ้าหลุด 1,632 จุด ดัชนีจะมีแนวรับถัดไปแถวๆ 1,617 จุดและ 1,609 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองช่วงนี้ ได้แก่ TMB มีแนวรับ 1.74-1.72 บาท มีแนวต้าน 1.77-1.78 , 1.82 บาท โดยระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาปิดในระดับสูงได้อีกครั้งในรอบสัปดาห์ โดยภาพรวมหลังจากมีความชัดเจนเรื่องควบรวมบริษัท ส่งผลให้ระดับราคาเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสั้นๆ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1.74-1.72 บาท อีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นผ่าน 1.77-1.78 บาทขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 1.82 บาทต่อไป
หุ้น SPVI มีแนวรับ 1.81-1.79 บาท และมีแนวต้าน 1.84-1.86 , 1.90 บาท ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวัน โดยขยับออกมาปิดนอกกรอบ Bollinger Top เล็กน้อย พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นพอสมควร หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 1.81-1.79 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 1.84-1.86 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 1.90 บาทต่อไป
ส่วนหุ้น SPRC มีแนวรับ 9.70-9.65 บาท มีแนวต้าน 9.90 , 10.20 บาท โดยระดับราคามีความพยายามดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันอีกครั้ง หลังจากไม่หลุดลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันในวันก่อนหน้า โดยระดับราคาสามารถปิดได้ในระดับสูงของวันและมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยพร้อมดีดกลับ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 9.70-9.65 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 9.90 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 10.20 บาทต่อไป
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่าน เมื่อถึงเมื่อเวลา 16.15 น วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,506.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,488.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 17.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับขึ้นจากแรงหนุนของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐตามตลาดคาดการณ์
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,483.06-1,512.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาแกว่งตัวบวกลบใกล้ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเมื่อย่อตัวต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปก็มีแรงซื้อคืนมาตลอดในช่วงต้นสัปดาห์เพื่อรอผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ หรือ FOMC โดยหลังการประชุมค่ำวันพุธที่ 18 ก.ย. 2562ของเมืองไทย ธนาคารกลางสหรัฐประกาศลดดอกเบี้ยลงตามตลาดคาดการณ์ไว้อีก 0.25% ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นก่อนการประกาศและมีแรงขายออกมาหลังการประกาศเป็นไปตามคาดการณ์ (Sell on Fact)
แม้เฟดจะส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ตลาดยังมองว่าในสถานการณ์ที่ธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกกลับมาใช้การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตนเองจากการชะลอตัว จึงมองว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปีนี้ ทำให้แรงซื้อทองคำเมื่อหลุดต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงมีอยู่
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยเปลี่ยนแปลงแข็งค่าราว 0.006 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.474 บาทต่อดอลลาร์จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.480 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 30.200-30.670 บาทต่อดอลลาร์
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้นได้ซื้อคืนบริเวณ 1,492-1,507 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกรอบแล้วและขึ้นมาเกือบถึงเป้า 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยขึ้นมาแตะ1,512.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับใครที่ยังไม่ขายทำกำไรก็ยังถือทองคำต่อได้แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุนทันทีและรอดูอีกครั้งบริเวณ 1,440-1,460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนเป้าหมายที่สองจะอยู่ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนนักลงทุนระยะยาวยังแนะนำถือทองคำต่อไป โดยหากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที
ข่าวเด่น