ดัชนียังสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาได้อีกครั้งในช่วงท้ายตลาดและปิดได้ในระดับสูงของวัน หลังจากที่ในช่วงเช้าดัชนีเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นเล็กน้อยก่อนที่จะดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านแรกแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ระดับ 1,641-1,642 จุดและแนวต้านถัดไปที่เส้นค่าเฉลี่ย 25 และ 200 วันที่ 1,648-1,649 จุด
ดังนั้นวันนี้ (30 ก.ย.)หากดัชนีอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 1,641-1,640 จุดอีก ยังน่าซื้อเพิ่มลุ้นดีดกลับขึ้นปิดเหนือแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 25 และ 200 วัน ที่ 1,648-1,649 จุดก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 1,654 จุดต่อไป สำหรับแนวรับหากสั้นๆดัชนีหลุดลงมาต่ำกว่า 1,641-1,640 จุด ยังมีแนวรับถัดไปที่ 1,636-1,634 จุด เป็นแนวรับสั้นๆที่สำคัญ
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น OSP ซึ่งมีแนวรับ 36.50-36.25 บาท และมีแนวต้าน 37.75 , 38.50 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาต่อเนื่องทำ New high ในรอบสัปดาห์พร้อมวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ระดับราคาสามารถประคองตัวปิดได้ในระดับสูงของวันด้วย
หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 36.50-36.25 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 2 สัปดาห์แถวๆ 37.75 บาท ก่อนผ่านขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 38.50 บาทต่อไป
ส่วนหุ้น SPVI มีแนวรับ 1.83-1.82 บาท และมีแนวต้าน 1.86 , 1.89-1.90 บาท ระดับราคายังสามารถประคองตัวดีดกลับขึ้นมายืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ หลังจากถูกขายทำกำไรออกมาในช่วงต้นสัปดาห์ แต่วอลุ่มซื้อขายค่อนข้างน้อยอาจเป็นการพักฐานชั่วคราวก่อนจะดีดกลับทำ New high รอบใหม่
หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 1.83-1.82 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 1.86 บาทและ 1.89-1.90 บาทต่อไป
และอีกตัวที่น่าจับตามองคือ หุ้นCENTEL ซึ่งมีแนวรับ 32.50-32.25 บาท มีแนวต้านที่ 33.00-33.50 , 34.25 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาแรงต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วัน อีกทั้งยังประคองตัวปิดได้ในระดับสูงท่ามกลางวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ MACD มีแนวโน้มที่จะดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์ได้
ดังนั้นหากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 32.50-32.25 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 33.00-33.50 บาทและ 34.25 บาทต่อไป
ขณะที่ด้านตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่าน เมื่อถึงเมื่อเวลา 16.30 น วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562 ราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,496.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,516.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถูกกดดันจากการที่นักลงทุนคาดว่าการเจรจาส่งครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
เริ่มต้นสัปดาห์ ราคาทองคำบวกต่อทันทีหลังมีข่าวว่าสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐจะยื่นถอดถอนประธานาธิบดีทรัมพ์ออกจากตำแหน่ง ในข้อหาการแทรกแซงการเลือกตั้งจากต่างประเทศ โดยประธานาธิบดีสหรัฐถูกกล่าวหาว่าได้โทรไปกดดันให้ผู้นำยูเครนเปิดการสอบสวนนายไบเคนและบุตรชาย ซึ่งนายไบเคนนั้น เป็นผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไปจากพรรคเดโมแครต ซึ่งถือเป็นคู่แข่งสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อยากจะอยู่ต่ออีกสมัย
ดั้งนั้นจึงทำให้ตลาดเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงจากการขัดแย้งทางการเมืองสหรัฐ จนราคาทองคำพุ่งขึ้นไปสูงเหนือกว่า 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ในช่วงก่อนปลายสัปดาห์มีข่าวว่าสหรัฐจะเปิดเจรจาลดความตึงเครียดเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเร็วขึ้นกว่าที่ตลาดกำหนด ส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้น ทำให้เกิดแรงขายในทองคำออกมาจนเริ่มกลับมาอยู่ใกล้บริเวณ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงอ่อนค่าราว 0.152 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.636 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.484 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนคำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ได้ซื้อคืนบริเวณ 1,492-1,507 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกรอบแล้ว และขึ้นมาถึงเป้า 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์เรียบร้อย แนะนำให้รอซื้อกลับคืนบริเวณเดิมอีกครั้งในช่วงราคา 1,485-1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุนทันที รอดูอีกครั้งบริเวณ 1,440-1,460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนเป้าหมายที่สองจะอยู่ 1,520-1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนนักลงทุนระยะยาวแนะนำถือทองคำต่อไป โดยหากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที
ข่าวเด่น