หุ้นทอง
พอร์ตลงทุนเตรียมเกษียณขาดทุน...คุณจะทำอย่างไร


ในยุคสมัยนี้มักจะให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนวัยทั้งเรื่องของสุขภาพและเรื่องเงินทองที่ต้องมีใช้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพของการเงินที่คุณต้องวางแผนและเตรียมพร้อมก่อนใช้ชีวิตในวัยเกษียณให้มีความสุข


หลังจากมิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯได้พูดคุยกับ"คุณสิรภัทร เกาฏีระ"CFP® นักวางแผนการเงินสมาคมนักวางแผนการเงินไทยและได้รับคำแนะนำว่า คุณควรตั้งคำถามกับตัวเองก่อน ดังนี้...ปัจจุบันมีสินทรัพย์และหนี้สินอยู่เป็นจำนวนเท่าใด เงินที่จะใช้หลังเกษียณเป็นจำนวนเงินเท่าใดและตอนนี้มีเพียงพอหรือไม่ เงินลงทุนที่จะใช้หลังเกษียณ ปัจจุบันลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ใดบ้าง ยังขาดเงินที่จะใช้หลังเกษียณอีกเท่าไรและต้องลงทุนเพิ่มอีกจำนวนเท่าไร

 
 
 
หากสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้จะทำให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนเพื่อที่จะเกษียณได้ เพราะปัจจุบันคุณสามารถมีทางเลือกในการลงทุนเพื่อการเกษียณที่หลากหลาย เช่น เงินฝากธนาคาร พันธบัตร ประกันชีวิต รวมไปถึงกองทุนรวม

ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นหากคุณต้องการลงทุนเพื่อเป้าหมายการเกษียณ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของชีวิต ดังนั้นคุณควรทำความเข้าใจลักษณะสินทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งในด้านนโยบายการลงทุน ผลตอบแทน ความเสี่ยง ระยะเวลาการลงทุน รวมทั้งค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังสามารถใช้วิธีการจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) โดยการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่างๆเข้ามาช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนได้

แต่ยังมีคำถามที่สำคัญหากอีก 5 ปี คุณจะเกษียณแต่พอร์ตการลงทุนปัจจุบันของคุณเกิดการขาดทุนจะทำอย่างไร
“เพราะในบางปีหากดัชนีหุ้นปรับตัวลดลง อาจจะทำผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นสามัญ กองทุนรวมหุ้น หรือพอร์ตการลงทุนติดลบได้” ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือที่คุณต้องเข้าใจในความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่ลงทุนด้วย

ยกตัวอย่างเช่นในระยะสั้น 3-6 เดือน การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นมีโอกาสที่จะเกิดการขาดทุนได้ จึงควรลงทุนระยะเวลา 3-5 ปีขึ้นไป หรือแม้กระทั่งการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ อาจจะเกิดเหตุการณ์มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ติดลบรายวันได้เช่นกัน ดังนั้นคุณจึงต้องมีการวางแผนการการลงทุนเพื่อเกษียณไว้ล่วงหน้า ทั้งในช่วงเวลาก่อนเกษียณและช่วงเวลาหลังเกษียณ

ทั้งนี้การลงทุนช่วงก่อนเกษียณที่จริงแล้วช่วงเวลาก่อนที่จะเกษียณ 3-5 ปี สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงได้ (หุ้นสามัญ กองทุนรวมหุ้น) ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้

“การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงก็เพื่อที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย จำนวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณได้และเมื่อถึงช่วงเวลาก่อนเกษียณ 1 ปี ควรปรับพอร์ตการลงทุน โดยคุณต้องลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลงและเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยให้มากขึ้น (เงินฝาก พันธบัตร กองทุนรวมตราสารหนี้)”

ทั้งนี้การลงทุนช่วงหลังเกษียณ คุณควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากมีรายได้น้อยกว่าช่วงก่อนเกษียณ โดยคุณอาจแบ่งพอร์ตการลงทุนออกเป็น 3 ประเภท
 
พอร์ตการลงทุนเพื่อสภาพคล่อง สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือใช้ในยามฉุกเฉิน โดยเน้นลงทุนเงินฝากออมทรัพย์หรือกองทุนรวมตลาดเงิน
พอร์ตการลงทุนเพื่อกระแสเงินสด สำหรับสร้างกระแสเงินรับ เป็นรายเดือน รายไตรมาส โดยเน้นลงทุนเงินฝากประจำ หุ้นกู้ พันธบัตร
พอร์ตการลงทุนเพี่อเพิ่มมูลค่า สำหรับเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว รวมทั้งชดเชยเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในแต่ละปี โดยอาจจะแบ่งเงินบางส่วน(ไม่ควรเกิน 15% ของเงินลงทุนทั้งหมด) มาลงทุนในหุ้นสามัญหรือกองทุนรวมหุ้น

สุดท้ายการลงทุนเพื่อการเกษียณควรมองภาพระยะยาว โดยที่คุณสามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพราะมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย รวมทั้งยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งควรมีการติดตามประเมินผลการลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ดังนั้นหากคุณมีการวางแผนการลงทุนเพื่อเกษียณที่ดีจะทำให้ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมีความสุข

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ต.ค. 2562 เวลา : 07:28:25
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 1:41 pm