ล่าสุดประกาศราชกิจจานุเบกษาให้ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จากเดิม 2%ของราคาประเมินและค่าจดจำนองจากเดิม1%ของมูลค่าที่จำนอง เหลือ 0.01% สำหรับซื้อที่อยู่อาศัย ที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นมาตรการช่วยผ่อนเบาภาระสำหรับคนที่อยากมีบ้านและช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.2562 ที่ผ่านมาต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24 ธ.ค.2563
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ระบุว่าประเด็นนี้ถือเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการประกาศลดค่าธรรมเนียมโอนฯและจดทำนองเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับคนซื้อบ้านได้บางส่วนการลดค่าธรรมเนียมทั้ง 2 รายการเหลือ 0.01% ทำให้คนซื้อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 19,850 บาทสำหรับบ้านมูลค่า 1 ล้านบาท
โดยปกติค่าธรรมเนียมโอนฯอยู่ในอัตรา 2%หรือ 2 หมื่นบาท โดยแบ่งคนละครึ่ง หรือ 1 หมื่นบาทสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อมีการปรับลดเหลือ 0.01% หรือฝั่งละ 0.05% ทำให้ผู้ซื้อประหยัดไป 9,950 บาท
ส่วนค่าจดจำนองนั้นโดยปกติเป็นภาระของผู้ซื้ออย่างเดียวหากลดเหลือ 0.01% จากเดิม 1% ของวงเงินกู้ ดังนั้นหากกู้เต็ม 100% ทำให้เกิดการประหยัดไปอีก 9,900 บาท กรณีซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาทและกู้เต็ม 100% สำหรับบ้านหลังแรกจะทำให้ผู้ซื้อประหยัดค่าธรรมเนียมโอนฯ 29,850 บาทและจดจำนอง 29,700 บาท รวมค่าใช้จ่ายลดลง 59,550 บาท
ด้านฝั่งผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET แม้ไม่ได้ประโยชน์จากค่าใช้จ่ายในการโอนฯที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญและพอร์ตสินค้าส่วนใหญ่มีราคาเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไปแต่ก็ยังมีบริษัทที่มีฐานสินค้าในกลุ่มนี้อยู่บ้าง ได้แก่ PS , QH, LPN, SPALI เป็นต้น
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัสมองว่าการมีมาตรการดังกล่าวจะช่วยทำให้ Backlog รวมสิ้นไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ระดับ 3.3 แสนล้านบาท (รวม JV 1.3 แสนล้านบาท) โดยเป็นส่วนที่พร้อมส่งมอบในครึ่งหลังปีนี้รวม 1.1 แสนล้านบาท และปี 2563 อีก 1 แสนล้านบาท ที่เข้าข่ายเกณฑ์ราคาตามมาตรการสามารถโอนฯได้ง่ายขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการระบายสต๊อกคงค้างของผู้ประกอบการที่มีอยู่รวมเกือบ 6 แสนล้านบาท (เป็นสต๊อกคอนโดฯสร้างเสร็จเกือบ 1 แสนล้านบาท) โดยฝ่ายวิจัยเลือกหุ้น Top Picks ในกลุ่มฯใช้เกณฑ์ทั้ง Backlog ระดับสูง และ Div Yield สูงเกิน 5% ได้แก่ SPALI ราคาเหมาะสม 23.20 บาท และ LH ราคาเหมาะสม 12.30 บาท
ข่าวเด่น