การปรับพอร์ต (Rebalance)ของMSCI รอบเดือนพ.ย.2562 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ราคาปิดของหุ้นในวันที่ 26 พ.ย. 2562 โดย MSCI มีการเพิ่มน้ำหนัก 5% ของ China A-Share (204 บริษัท) ลงในดัชนี MSCI Emerging Market ส่งผลให้ล่าสุดหุ้นจีน China A Share มีสัดส่วน 4.1% ของ MSCI Emerging Market หรือ 20%ของหุ้น China A Share ทั้งหมด (ดังตาราง)
ฝ่ายวิจัยบล.เอเซียพลัสหรือ ASP ประเมินว่าการปรับพอร์ตของ MSCI ดังกล่าวจะกดดันให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสถูกเบียดให้มีสัดส่วนลดลงและ Fund Flowมีโอกาสสะดุด
สำหรับตลาดหุ้นไทยในรอบนี้ MSCI มีการปรับหุ้นใหม่เข้าคำนวณถึง 11 บริษัท โดยแบ่งเป็น 4 บริษัท ถูกเพิ่มในดัชนี MSCI Global Standard และ 7 บริษัทถูกเพิ่มในดัชนี MSCI Mid Small Cap แต่มีหุ้น 3 บริษัท ถูกคัดออกจากดัชนี MSCI Mid Small Cap
ทั้งนี้การเก็งกำไรหุ้นในธีม MSCI Play นั้น โดยปกติแล้วฝ่ายวิจัยฯจะแนะนำให้ซื้อในวันที่ประกาศและขายในวันที่หุ้นถูกนำเข้าคำนวณ เนื่องจากสถิติในอดีตพบว่าราคาหุ้นที่ถูกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI มีโอกาสปรับตัวขึ้นตั้งแต่วันที่ประกาศจนถึงวันที่มีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณ ดัชนี MSCI Global Standard ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5-6% และความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงถึง 86%
ขณะที่หุ้นคัดเลือกเข้าคำนวณ ดัชนี MSCI Global Small Cap ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 2-3% และความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 60% แต่ราคาหุ้นจะค่อยๆลดลง หลังถูกนำเข้าคำนวณดัชนีแล้ว ขณะที่หุ้นถูกคัดออกมีโอกาสปรับตัวลงแรงก่อนวันเข้าคำนวณจึงแนะนำหลีกเลี่ยงไปก่อน
ฝ่ายวิจัยฯพบว่าปัจจุบันกระแสการลงทุนตาม Index Play ไม่ว่าจะเป็นดัชนี MSCI, FTSE, SET50 และ SET100 ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดการเก็งกำไรล่วงหน้าก่อนวันประกาศ และเมื่อ MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นออกมา ทำให้มีการขายทำกำไรออกมาบางส่วน ผลตอบแทนที่คาดหวังจึงอาจน้อยกว่าสถิติในอดีต
สังเกตได้จากหุ้นหลายบริษัทในรอบที่ผ่านมา แม้ถูกคัดเข้าดัชนี MSCI Global Standard แต่ก็ถูกขายทำกำไรจนราคาลงแรง หลังประกาศจนถึงวันบังคับใช้ เช่น DTAC ลดลงหลังประกาศ จนถึงวันบังคับใช้ ลบ 8.2%, INTUCH ลบ 3.8% และ RATCH ลบ 3.8%
ขณะที่หุ้นที่ถูกคัดเข้า MSCI Global Small Cap ในรอบที่แล้วปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าสถิติในอดีต เนื่องจากไม่มีการถูกเก็งกำไรมาก่อน บวกกับนักลงทุนให้ความสนใจประเด็นนี้มากขึ้น เช่น หุ้น TASCO ปรับตัวขึ้น หลังประกาศจนถึงวันบังคับใช้ 7.8%, PSH บวก 6.9% เป็นต้น ส่วน SET Index ลบ 1.26%
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในธีม MSCI รอบนี้ แนะนำลงทุนในหุ้นที่มี Valuation เด่น, ราคาหุ้นยังมี Upside สูง และถูกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI แบบเหนือความคาดหมายของตลาด อย่าง STPI , CENTEL และ TPIPP (ดังตาราง)
ข่าวเด่น