ตลาดหลักทรัพย์ฯต่อยอดระบบการชำระเงินตลาดทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการชำระเงินระหว่างภาคตลาดทุนและธนาคารพาณิชย์ โดยพัฒนาให้รองรับการรับและจ่ายเงินค่าซื้อขายหลักทรัพย์ของ ผู้ลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ โดยที่บัญชีต้นทางและปลายทางอยู่ต่างธนาคารกันได้ ลดความเสี่ยงเชิงระบบในการชำระเงิน พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ 11 พ.ย.นี้ สอดรับแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐ National e-Payment ผู้ลงทุนเลือกใช้บัญชีกับธนาคารที่ใช้บริการได้สะดวกเหมือนเดิม
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าบริษัท ฟินเน็ต อินโนเวชั่น เน็ตเวิร์ค จำกัด (FinNet) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เริ่มให้บริการระบบการชำระเงินตลาดทุนตั้งแต่ปี 2561ตามแผนกลยุทธ์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนยุคดิจิทัลครบวงจร และมีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ล่าสุดระบบจะให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบ 11 พฤศจิกายนนี้ โดยรองรับการชำระเงินค่าซื้อขายหลักทรัพย์ที่บัญชีต้นทางและปลายทางอยู่ต่างธนาคารกันได้ ปัจจุบันมูลค่าการโอนเงินอยู่ที่ประมาณแปดพันล้านบาทต่อวันตอกย้ำวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกคน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” และสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment ของภาครัฐ
“ตลาดหลักทรัพย์ฯขอบคุณกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ก.ล.ต. บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และชมรมคัสโตเดียนที่สนับสนุนเป็นอย่างดี ระบบการชำระเงินตลาดทุนดังกล่าวนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการชำระเงินแล้ว ยังลดภาระการบริหารเงินสดของสถาบันตัวกลาง และลดความเสี่ยงการชำระเงินในระบบธนาคารด้วย ด้านผู้ลงทุนยังคงสามารถเลือกใช้บัญชีเงินกับธนาคารที่ใช้บริการเหมือนเช่นเดิม”
“ปัจจุบันระบบการชำระเงินตลาดทุนให้บริการแก่บริษัทหลักทรัพย์ 31 ราย ธนาคารพาณิชย์ 12 ราย ในระยะต่อไป ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนจะหารือกับผู้ประกอบการเพื่อให้บริการครอบคลุมธุรกรรมอื่นให้อย่างครบวงจร เช่น เงินปันผลที่บริษัทจดทะเบียนจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเงินค่าซื้อขายในกองทุนรวม เป็นต้น” นายภากรกล่าว
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยว่าระบบการชำระเงินตลาดทุนเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการชำระราคาโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดปัญหา อุปสรรคและเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระราคาของรายการที่เกิดขึ้นในตลาดทุนโดยเฉพาะรายการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯที่มีเพิ่มขึ้นมากจากอดีตทั้งด้านจำนวนรายการและจำนวนเงิน ระบบที่พัฒนาขึ้นมาจะให้ประโยชน์ในการบริหารเงินของทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ และธนาคารพาณิชย์และที่สำคัญจะลดความเสี่ยงต่อระบบการชำระราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปริมาณซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ข่าวเด่น