หุ้นทอง
ระยะสั้นไม่เหมาะเก็งกำไร-ระยะยาวรอซื้อเพิ่ม"ทอง"ซื้อเก็งกำไรขาขึ้นรอราคาปิดเหนือ 1,495 ดอลล์


ดัชนีหลุดลงมาทำ New low วันต่อวันต่อเนื่อง หลังจากหลุดลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน อีกทั้งยังหลุดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,600 จุดอีกครั้ง ทำให้ภาพรวมของตลาดมีโอกาสที่ดัชนีจะซึมลงต่อ โดยมีแนวโน้มที่ดัชนีจะลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1589 จุดก่อนและมีจุดต่ำสุดเดิมในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 1579 จุดรออยู่อีกด้วย ในขณะที่ MACD กำลังจะดีดกลับพ้นระดับศูนย์ก็เริ่มพลิกกลับลงมาอีกครั้ง

 


 
 
หากวันนี้(18พ.ย.)ดัชนีประคองตัวปิดเหนือระดับ 1,600 จุดไม่ได้เป็นอย่างน้อยอีก ดัชนีน่าจะซึมลงไปที่แนวรับดังกล่าว สำหรับระยะสั้นยังไม่น่าเก็งกำไรแต่ระยะยาวรอซื้อเพิ่มได้ แนวต้าน 1,610-1,618 จุด และ 1,642 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น APURE มีแนวรับ 0.73-0.72 บาท มีแนวต้าน 0.75 , 0.79 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน อีกทั้งยังมีวอลุ่มซื้อขายสูงมากอีกด้วย ในขณะที่ MACD ยังอยู่ต่ำกว่าแต่ใกล้จะดีดกลับพ้นศูนย์แล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 0.73-0.72 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นผ่าน 0.75 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 0.79 บาทต่อไป

ตามด้วยหุ้น COM7 ซึ่งมีแนวรับ 28.75-28.25 บาท และมีแนวต้าน 29.50-29.75, 31.50 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ อีกครั้งหลังจากวันก่อนหน้าหลุดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในรอบ 3 สัปดาห์แล้วไม่หลุดเกิดเป็นสัญญาณโดจิ หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 28.75-28.25 บาทอีก น่าซื้อเพิ่มลุ้นดีดกลับผ่าน 29.75 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 31.50 บาทต่อไป

และหุ้น KCE ซึ่งมีแนวรับ 16.70-16.60 บาท และมีแนวต้าน 17.40-17.80 , 18.30 บาท โดยระดับราคาสามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้ต่อเนื่องและเริ่มดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกด้วย หลังจากถูกขายทำกำไรลงมาตลอดทั้งสัปดาห์ ในขณะที่ MACD ไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์และกำลังดีดกลับอีกครั้ง

ดังนั้นหากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่า 16.70-16.60 บาทอีก ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 17.40-17.80 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 18.30 บาทต่อไป
 

 
 
ด้านภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงเวลา 13.00 น. วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,464.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,459.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นเล็กน้อยราว 4.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนคลี่คลายกดดันราคาทองคำปรับลงแรงตลอด

ขณะที่ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมากพอสมควร โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,455.70-1,474.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำโลกมีแรงขายออกมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จากทั้งข่าวจีนเรียกร้องให้สหรัฐเริ่มยกเลิกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของจีนไปยังสหรัฐ ก่อนที่จะทำข้อตกลงก้าวแรกที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้

ประกอบกับประธานธนาคารกลางสหรัฐมีแถลงมุมมองให้กับสภาคองเกรส ซึ่งมองว่ายังไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ในเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนธันวาคมนี้น้อยลงไปด้วย จึงเกิดแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำออกมาต่อเนื่อง

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงแข็งค่าเล็กน้อย 0.076 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.234 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.310 บาทต่อดอลลาร์

คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำว่าหากอยากซื้อเก็งกำไรขาขึ้น รอให้ราคาปิดเหนือ 1,495 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ค่อยซื้อตามจะดีกว่า แต่หากอยากทยอยสะสม แนะนำให้สะสมราคาใกล้แนวรับดังนี้ 1,460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ

โดยเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,475-1,495 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไปหรือสะสมเพิ่มเมื่อลงมาอยู่ช่วงระหว่าง 1,380-1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป้าหมายปีหน้ายังอยู่บริเวณ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 พ.ย. 2562 เวลา : 08:02:29
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 4:54 pm