ดัชนีมีการแกว่งตัวลงทำ New low ต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ ประเด็นหลักมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อีกทั้งยังมีประเด็นการออกกฎหมายรับรองการประท้วงในฮ่องกงของสหรัฐที่มองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน ทำให้บรรยากาศการลงทุนกลับมาอึมครึมอีกครั้ง
สำหรับบ้านเราแม้ว่าดัชนีจะหลุดลงมาทำ New low แต่ก็มีแรงซื้อดีดกลับเช่นกัน หากวันนี้ (2ธ.ค.) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low วันต่อวันต่ำกว่า 1,580 จุดอีก ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับรอบใหม่ได้ต่อไป โดยมีแนวต้านแถวๆ 1,595-1,600 จุด และ 1,608 จุด ในขณะที่แนวรับอยู่แถวๆ 1,579 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น CBG ซึ่งมีแนวรับที่ 86.75 บาท และมีแนวต้านที่ 89.00-89.25 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยผ่านขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันอีกด้วย ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น หากวันนี้ราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 86.75 บาทซะก่อน ระดับราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 89.00-89.25 บาทต่อไป
ส่วนหุ้น TFG มีแนวรับ 4.60-4.58 บาท และมีแนวต้าน 4.76 , 4.96 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวัน หลังจากที่ในระหว่างวันหลุดลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันเล็กน้อยในช่วงเช้า ก่อนที่ระดับราคาจะดีดกลับขึ้นมายืนในระดับสูงได้ตลอดทั้งวัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 4.60-4.58 บาทซะก่อน ระดับราคามีโอกาสดีดกลับผ่าน 4.76 บาทขึ้นไปทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกครั้ง แนวต้าน 4.96 บาท
และหุ้น BOL โดยมีแนวรับที่ 3.18 บาท และมีแนวต้านที่ 3.26-3.28 , 3.36-3.38 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ ในระดับสูงสุดของวันแต่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยังไม่น่าดีดกลับได้ไกล หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 3.18 บาทอีก ระดับราคาน่าจะมีโอกาสดีดกลับทำ New high ได้ต่อ หากระดับราคาดีดกลับผ่าน 3.26-3.28 บาทได้เร็วค่อยเพิ่มลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 3.36-3.38 บาทต่อไป
ส่วนตลาดทองคำ โดยสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 11.00 น วันศุกร์ที่ 29 ธ.ค.2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,458.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,462.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับลงราว 4.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังถูกกดดันจากข่าวการเจรจาสงครามการค้าที่คืบหน้า
ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมากพอสมควร โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,450.11-1,462.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำโลกปรับลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังมีความคืบหน้าที่สหรัฐและจีน บรรลุข้อตกลงขั้นตอนแรก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเริ่มยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าที่ประกาศขึ้นก่อนหน้านี้บางรายการแล้ว ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับเพิ่มขึ้นและกดดันราคาทองคำโลกปรับลง
แม้ราคาทองคำโลกจะปรับลงแต่ยังอยู่ในกรอบ Sideway Down ซึ่งยังเป็นการพักฐาน แนวรับหลักที่ไม่ควรหลุดต่ำกว่ายังอยู่ที่ $1,420 เหรียญ ช่วงนี้ยังเป็นโอกาสสะสมทองคำเข้าพอร์ตสำหรับคนที่สนใจ ส่วนนักเก็งกำไร ยังไม่ใช่จุดเข้าซื้อในช่วงนี้
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงอ่อนค่าเล็กน้อยประมาณ 0.015 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.205 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.190 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 30.175-30.245 บาทต่อดอลลาร์
ดังนั้นคำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น หากต้องการซื้อเก็งกำไรขาขึ้น รอให้ราคาปิดเหนือ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แล้วค่อยซื้อตามจะดีกว่า แต่หากอยากทยอยสะสม แนะนำให้สะสมราคาใกล้แนวรับดังนี้ 1,460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ โดยเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,475-1,495 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไปหรือสะสมเพิ่มเมื่อลงมาอยู่ช่วงระหว่าง 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือใกล้เคียง เป้าหมายปีหน้ายังอยู่บริเวณ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที
ข่าวเด่น