สัญญาณนักลงทุนต่างชาติสลับกลับเข้ามาซื้อสุทธิตลาดหุ้นในภูมิภาคกว่า 220 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ขายสุทธิมา 22 วันกันเลยทีเดียว มีตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่เมื่อวันพุธถูกขายสุทธิ 86 ล้านดอลลาร์ โดยขายสุทธิเป็นวันที่ 11 ส่วนประเทศที่เหลือถูกซื้อสุทธิ เริ่มจากตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 303 ล้านดอลลาร์หลังจากซื้อสุทธิ 4 วัน, อินโดนีเซีย ซื้อ 2 ล้านดอลลาร์ หลังจากขายสุทธิ 1 วัน, ฟิลิปปินส์ ซื้อ 0.7 ล้านดอลลาร์ หลังจากซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2
หากพิจารณาเฉพาะไทยจะเห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทย 7 วัน มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตราสารหนี้ไทยซื้อสุทธิกว่า 6 วัน มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท ทำให้ Bond Yield 10 ปี ของไทยปรับตัวลงกว่า 8 bps. จนล่าสุดมาอยู่ที่ 1.57% สะท้อนว่านักลงทุนยังมีความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เช่น สงครามทางการค้าจีน-สหรัฐ ,การตัดลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC รวมถึงการปรับพอร์ตเตรียมเงินซื้อหุ้น Saudi Aramco ของกองทุน
ในช่วงเดือนธ.ค.2562 น่าจะยังเห็นแรงขับเคลื่อนจากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาซื้อ LTF ก่อนสิ้นปี ถือเป็นรอบสุดท้าย ซึ่งในเดือนพ.ย. 2562 ที่ผ่านมา สถาบันซื้อสุทธิเพียง 2.5 พันล้านบาทเท่านั้น แต่จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี พบว่าสถาบันซื้อสุทธิหุ้นไทยช่วง 2 เดือนสุดท้ายเฉลี่ยสูงถึง 2.08 หมื่นล้านบาท เป็นการซื้อสุทธิ 9 ใน 10 ปี
ดังนั้นในปี 2562 นี้ นักลงทุนยังซื้อ LTF น้อยอยู่ จึงมีโอกาสที่จะเห็นแรงซื้อที่จะกระจุกตัวในเดือนธ.ค.2562 นี้มากขึ้น โดยมีโอกาสสูงที่จะเกิดการทำ Window Dressing หรือการดันราคาหุ้นของนักลงทุนสถาบันเพื่อให้พอร์ตที่ลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้งบการลงทุนรายไตรมาสออกมาดูดี
ดังนั้นฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส จึงทำการคัดกรองหุ้นที่นักลงทุนสถาบันนิยมซื้อสะสมในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เริ่มจากค้นหารายชื่อหุ้นที่กองทุน LTF นิยมลงทุนมากที่สุด จากกองทุน LTF ทั้งหมด 93 กองทุน มีมูลค่าของทรัพย์สินสุทธิรวมกันกว่า 3.87 แสนล้านบาท ข้อมูล ณ สิ้นเดือนต.ค.2562
ข่าวเด่น