หุ้นทอง
ถ้าลงมือทำ สร้างเงินล้านผ่านกองทุนรวม"ใครๆ ก็ทำได้"


 


การจะหาเงิน“ล้านบาทแรก” สำหรับคนที่เริ่มต้นใหม่ๆ มักจะพูดเป็นเสียงกันว่า “ยากที่สุดและไม่มีทางเป็นไปได้” แต่ถ้าคุณผ่านเวลานั้นมาได้เมื่อไหร่ ล้านที่สอง ล้านที่สาม ก็จะง่ายขึ้น

แต่คุณก็ยังมีคำถามและสงสัยต่อว่า เอ้า! “แล้ว 1 ล้านบาทแรก คุณจะหามาได้จากไหน”

วันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและจารุณี พัชรพิมานสกุล ขอมาแชร์ว่าทุกคนมีหนทางกำเงินล้านและมีโอกาสเป็นไปได้ เพียงแค่คุณลงมือทำและมีวินัย ด้วยการเก็บเงินเดือนละเล็กๆน้อยๆ ก็จะคว้าล้านบาทแรกมาครองได้ไม่ยาก

เมื่อมีรายได้เข้ากระเป๋า สิ่งที่จะต้องทำเป็นอันดับแรก คือ หักเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้เพื่อเก็บออมที่เหลือค่อยนำไปเป็นค่าใช้จ่าย แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นจริง คือ มีเงินก็นำไปใช้จ่ายก่อน ผลที่ตามมาเงินจะไม่มีเหลือให้เก็บ

ดังนั้นหากต้องการเห็นเงินล้านบาทแรก ควรเริ่มต้นเก็บเงินแล้วไปหาช่องทางการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งวิธีลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) จะเหมาะสำหรับมือใหม่และถือเป็นการสร้างวินัยการออมที่ดี

คุณอาจรู้สึกว่าการหักเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้ ถือเป็นเงินก้อนที่ค่อนข้างเยอะ อาจทำให้คุณเหลือเงินไม่พอสำหรับใช้จ่าย หากรู้สึกแบบนี้ ทางออก คือ ปรับพฤติกรรมลดการใช้จ่ายบางอย่าง เช่น ซื้อกาแฟและชานมไข่มุก วันละ 120 บาท หรือ 3,600 บาทต่อเดือน (120 บาท x 30 วัน) แต่ถ้าเปลี่ยนเงินก้อนนี้ไปลงทุน ก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปอย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจากคุณตัดสินใจเก็บออมแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณต้องคิด คือจะลงทุนอะไรดี เพราะการลงทุนแต่ละอย่าง จะได้รับผลตอบแทนที่แตกต่างกันและส่งผลต่อการงอกเงยของเงินออม ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายได้ เช่น ทุกๆ เดือน นำเงิน 3,600 บาท ไปไว้ที่บัญชีออมทรัพย์ กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนหุ้น ผ่านไป 15 ปี มาดูกันว่าจะได้ผลตอบแทนต่างกันอย่างไร

 

 
จากตัวอย่าง คุณจะพบว่าแค่หยุดซื้อกาแฟและชานมไข่มุกแล้วนำเงิน 3,600 บาท ไปลงทุน คุณก็สามารถคว้าล้านบาทแรกได้อย่างง่ายๆ แต่สิ่งที่สำคัญอยู่ที่การเลือกสินทรัพย์ลงทุน โดยสินทรัพย์แต่ละประเภทที่ลงทุจะให้อัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกัน และแน่นอนความเสี่ยงก็ต่างกันด้วย

ความเสี่ยง คือ การที่ไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ เพราะอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ที่ลงทุน รวมถึงความสามารถในการบริหารของผู้จัดการกองทุน เป็นต้น

เช่น ถ้าคุณลงทุนในกองทุนหุ้นและคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 8%ต่อปี แต่หากในปีนั้นเศรษฐกิจชะลอตัว เกิดสงครามการค้า ผลตอบแทนที่ได้อาจเหลือเพียง 1% หรือขาดทุน ดังนั้น อัตราผลตอบแทนจึงมาพร้อมกับความเสี่ยง อย่างที่มักได้ยินเสมอว่า ยิ่งอัตราผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็สูงเช่นเดียวกัน (High Risk High Returns)

ดังนั้นทุกครั้งที่ตัดสินใจลงทุน สิ่งที่ควรรู้ คือ รู้จักตัวเองว่า ยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน รู้จักสินทรัพย์ที่ลงทุน แล้วเลือกปรับวิธีการให้สอดคล้องกับสถานการณ์และตัวเอง จะเห็นได้ว่า การที่คุณจะมีเงินล้านจึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณลงมือทำ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 ธ.ค. 2562 เวลา : 08:44:59
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 6:49 pm