ดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีลักษณะกระโดดเปิด GAP ในช่วงเช้าขึ้นไปทำ New high ในรอบสัปดาห์ ก่อนที่จะถูกแรงขายทำกำไรระยะสั้นกดลงมา ทำให้ดัชนีไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้แต่ยังมีแรงพยุงไว้ไม่ไหลกลับลงมาแรงหรือหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน
วันนี้ (16 ธ.ค.) จะใช้เป็นแนวรับระยะสั้น หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่ 1,563-1,566 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านถัดไปแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 1,592 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ JKN ซึ่งมีแนวรับ 4.92-4.88 , 4.78 บาท ส่วนแนวต้าน 5.05-5.15 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยปิดได้ในระดับสูงของวัน ขณะที่ MACD พยายามจะดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่า 4.92-4.88 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุด 4.78 บาท ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high แถวๆ 5.05-5.15 บาทต่อไป
นอกจากนี้ยังมีหุ้น WORK ซึ่งมีแนวรับ 13.80 บาท และมีแนวต้าน 14.30 , 15.10 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ ในระดับสูงของวัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น และยังมีลุ้นผ่านขึ้นทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกด้วย ขณะที่ MACD ยังอยู่ต่ำกว่าศูนย์แต่พร้อมดีดกลับ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 13.80 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 14.30 บาทขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 15.10 บาทต่อไป
สุดท้ายหุ้น TKN มีแนวรับ 11.30 บาท มีแนวต้าน 11.80 , 12.50 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยปิดได้ในระดับสูงของวัน ประกอบกับ MACD ที่ดีดกลับขึ้นมาได้ไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์ซะก่อน หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมา หรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 11.30 บาท มีโอกาสที่ระดับราคาจะดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 11.80 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 12.50 บาทต่อไป
ด้านภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 16.00 น วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,471.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,459.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้น 12.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ผันผวนตลอดสัปดาห์จากประเด็นสงครามการค้าที่การเจรจาคืนหน้า
ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมากพอสมควร โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,458.40-1,487.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำโลกปรับขึ้นทะลุเหนือ 1,485 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที หลังตลาดกังวลว่าการเจรจาสงครามการค้า อาจจะไม่ทันเส้นตายเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ราคาทองคำโลกไม่สามารถยืนเหนือ 1,485 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หลังข่าวสหรัฐและจีนประสบความสำเร็จในการเจรจาผ่อนปรนภาษีนำเข้าของทั้งสองประเทศได้ ทำให้ราคาทองคำร่วงหล่นลงมาสู่ระดับ 1,465 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้งก่อนจะดีดตัวขึ้นมาเล็กน้อย
สัปดาห์ที่ผ่านมาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐมีมติคงอัตราดอกเบี้ยและยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลงอีกในอนาคตอันใกล้ๆ
แม้ราคาทองคำโลกจะแกว่งตัวแรงแต่ยังอยู่ในกรอบ Sideway Down ซึ่งยังเป็นการพักฐาน แนวรับหลักที่ไม่ควรหลุดต่ำกว่ายังอยู่ที่ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงนี้ยังเป็นโอกาสสะสมทองคำเข้าพอร์ตสำหรับคนที่สนใจ ส่วนนักเก็งกำไร ยังไม่ใช่จุดเข้าซื้อในช่วงนี้ ยังมองว่านักเก็งกำไรระยะสั้นควรซื้อตามเมื่อราคายืนเหนือ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วเท่านั้น
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา เปลี่ยนแปลงแข็งค่าพอสมควร 0.16 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.216 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.348 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 30.015-30.360 บาทต่อดอลลาร์
คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำว่าหากอยากซื้อเก็งกำไรขาขึ้น รอให้ราคาปิดเหนือ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ค่อยซื้อตามจะดีกว่า แต่หากอยากทยอยสะสม แนะนำให้สะสมราคาใกล้แนวรับดังนี้ 1,470 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ โดยเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,480-1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไปหรือสะสมเพิ่มเมื่อลงมาอยู่ช่วงระหว่าง 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือใกล้เคียง เป้าหมายปีหน้ายังอยู่บริเวณ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที
.jpg)
ข่าวเด่น