ตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาผันผวนรุนแรง โดย SET Index ลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,600 จุด สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.)หลายแห่งปรับฐานลงมาแรงมาก จนทำให้เห็นว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา บจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนกันจำนวนมาก เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้นักลงทุนนั่นเอง อย่างเช่น สัปดาห์ที่ผ่านมามีบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนถึง 3 บริษัท คือ TCAP, RS และ FSMART และหลังประกาศซื้อหุ้นคื ราคาหุ้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี 2.7%, 2.5% และ 7.8% ตามลำดับ
ในภาวะตลาดที่เป็นเช่นนี้และเราอาจได้เห็นบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนต่อเนื่องอีก ดังนั้นฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัส หรือ ASP จึงได้ทำการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อประเมินว่า เวลาบจ.ซื้อหุ้นคืนหลายบริษัทจะส่งผลต่อตลาดอย่างไร? หุ้นที่มีการซื้อน่าสนใจลงทุนหรือไม่? และจะใช้กลยุทธ์การลงทุนหุ้นบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนอย่างไร เพื่อให้ได้กำไรดี?
ฝ่ายวิจัยฯจึงได้ไปดูข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 10 ปี ในกลุ่มตัวอย่างบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนเกือบทั้งหมดราว 42 บริษัท และส่วนใหญ่ประกาศซื้อหุ้นคืนในปีที่ตลาดหุ้นปรับฐานแรง เช่น
ปี 2558 SET Index ปรับฐาน 14% (ลดลงมากสุดใน 10 ปี ที่ผ่านมา) มีบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืน 5 บริษัท และมีมาต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2559 อีก 4 บริษัท ขณะที่ในปี 2559 SET Index ฟื้นตัวกว่า 19.8%
ปี 2561 SET Index ลดลง 10.8% (ลดลงมากสุดเป็นอันดับ 2 ใน 10 ปี ที่ผ่านมา) มีบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนถึง 13 บริษัท หลังจากนั้น 6 เดือน SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% ในช่วงครึ่งแรกปี 2562
ปี 2562 มีบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนในช่วงครึ่งหลังของปีถึง 15 บริษัท ซึ่งเป็นผลจากการที่ SET Index ปรับฐานลงมามากนั่นเอง
ฝ่ายวิจัยฯพบว่าหลังจาก บจ.ออกมาประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวนมาก ตลาดหุ้นมักจะตอบสนองในเชิงบวกและมีโอกาสรีบาวด์กลับในระยะถัดไปเสมอ แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีหุ้นหลายบริษัทที่น่าสนใจในเชิง Valuation แต่ความต่อเนื่องของการปรับขึ้นของตลาดหุ้นก็ยังต้องขึ้นอยู่กับภาวะแวดล้อมและปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ด้วย
ฝ่ายวิจัยฯได้ค้นหาช่วงเวลาการลงทุนที่ดีที่สุดในหุ้นบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนจากข้อมูลย้อนหลัง 10ปี พบว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ "ซื้อหุ้นบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืน ในวันที่ประกาศและขายทำกำไรในอีก 1 เดือนให้หลัง" ซึ่งมีโอกาสได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกราว 2.6% และบางบริษัทให้ผลตอบแทนเกิน 10% การซื้อหุ้นคืนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพยุงราคาหุ้น บวกกับความคาดหวัง EPS (กำไรสุทธิต่อหุ้น)เพิ่มขึ้น จากจำนวนหุ้นที่ลดลงตามจำนวนที่ซื้อคืนด้วย
หลังจากนั้นราคาหุ้นส่วนใหญ่จะย่อตัวลงตามลำดับ โดยเฉพาะหลังจากประกาศซื้อหุ้นคืนเกิน 6 เดือน ผลตอบแทนที่ได้มีโอกาสย่อตัวจนติดลบ เนื่องจากบริษัทมีระยะเวลาในการซื้อหุ้นคืนได้ไม่เกิน 6 เดือน รวมถึงบริษัทอาจจะยังไม่มีแผนในการลงทุนโครงการใหม่ๆ จึงนำเงินมาซื้อหุ้นคืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่กดดันราคาและยังสอดคล้องกับสถิติในอดีต
โดยสรุปแล้ว ราคาหุ้นบจ.ที่ถูกประกาศซื้อหุ้นคืน มักปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีในระยะสั้น คือ ดีสุด 1 เดือนหลังประกาศ ส่วนระยะยาวกว่า 6 เดือน ราคามักย่อตัวลง และหลายๆบริษัทให้ผลตอบแทนติดลบ สวนทางตลาดที่เริ่มฟื้นขึ้น
จากประเด็นดังกล่าวฝ่ายวิจัยฯยังชื่นชอบและแนะนำลงทุนหุ้น RS ราคาหุ้นปรับฐานลงมาสวนทางกับแนวโน้มการเติบโต จนบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน และคาดว่าเร็วนี้น่าจะมีข่าวดีจากการประกาศพันธมิตรช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางทีวีเพิ่มอีก 2 ช่อง เป็น 5 ช่อง หนุนกำไรปี 63 เติบโตถึง 36%
ข่าวเด่น