หุ้นทอง
เลือกกู้หนี้กับแบงก์แบบไหน...ให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด


 

 

การที่คุณไม่มีภาระหนี้สิน สะท้อนให้เห็นถึงสุขภาพการเงินของคุณที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญทำให้คุณ “สุขทั้งใจและสุขทั้งกาย” แต่เดี๋ยวก่อนนะ คุณอย่าพึ่งกังวลเกินเหตุหรือซีเรียส เพราะวันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและคุณดุสิต จักรศิลป์ ขอชี้แนะให้คุณเห็นถึงการมีหนี้สินนั้น มันก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป เพราะการกู้ยืมทำให้ได้คุณครอบครองสินทรัพย์ ที่มีมูลค่าสูงมากกว่าเงินที่มีอยู่และกู้เพื่อดำรงชีพได้ เช่น บ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจกู้เงิน คุณต้องเลือกกู้กับสถาบันการเงินที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด โดยปัจจัยที่คุณต้องพิจารณานั้น ประกอบด้วย


การเลือกให้เหมาะสม เพราะสินเชื่อของสถาบันการเงินมีหลายประเภท คุณในฐานะผู้ขอสินเชื่อก็ควรต้องเลือกประเภทสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการกู้ยืมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ตัวอย่างเช่น สินเชื่อบ้านแลกเงิน เหมาะถ้าคุณมีหลักประกันเงินกู้เป็นบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งปลอดภาระผูกพันและต้องการเงินทุนจำนวนมาก เพื่อประกอบธุรกิจ คิดดอกเบี้ยแบบต้นลดดอกลด โดยดอกเบี้ยที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับการเลือกรูปแบบของการคิดดอกเบี้ย การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อและสถาบันการเงิน ซึ่ง ข้อเสีย คือ การอนุมัติใช้เวลานานกว่าสินเชื่อประเภทอื่น มีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมสูง เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าจำนองหลักทรัพย์

สินเชื่อรถแลกเงิน เหมาะถ้าคุณมีหลักประกันเป็นรถยนต์ ที่ปลอดภาระผูกพันต้องการเงินทุน 70-80% ของราคาประเมิน ซึ่งมี ข้อดี คือ ใช้เวลาอนุมัติรวดเร็วเพียง 1-3 วัน และคุณยังมีรถยนต์ไว้ใช้งานตามปกติ มีค่าธรรมเนียมรวมไม่สูงนัก แต่ข้อเสีย เพราะคิดดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งดอกเบี้ยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น อายุการใช้งานและความสมบูรณ์ของรถยนต์

สินเชื่อส่วนบุคคล เหมาะกับคุณ หากคุณไม่มีหลักประกันเงินกู้ ไม่มีผู้ค้ำ มีรายได้ประจำมีความต้องการใช้เงินก้อน 1-5 เท่าของเงินเดือน แต่ดอกเบี้ยสูงมาก 15-28% ขึ้นอยู่กับระยะเวลาผ่อนชำระและวงเงินที่ได้รับอนุมัติ แต่คุณต้องผ่อนชำระด้วยยอดเงินเท่ากันทุกงวดจนครบกำหนด แต่หากผิดนัดต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 28% ต่อปี

บัตรกดเงินสด ข้อดีคือสะดวก คุณกดเงินได้ที่ตู้ ATM ไม่มีค่าธรรมเนียมการกด แถมคุณผ่อนชำระตามความสามารถในแต่ละเดือนขั้นต่ำ 3-10% ของยอดเงินต้นคงค้าง แต่ดอกเบี้ยสูง 20-28% ต่อปี คิดดอกเบี้ยทุกวันตามจำนวนเงินต้นที่ยังส่งคืนไม่ครบ ถ้าคุณผิดนัดต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทวงถามหนี้ค้างชำระและเบี้ยปรับ

ส่วนบัตรเครดิต หากคุณใช้ซื้อสินค้า ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ถ้าคุณชำระเงินค่าสินค้าทั้งหมดตรงตามกำหนดเวลา หากคุณชำระค่าสินค้าไม่ครบถ้วน คุณจะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ซื้อสินค้า แต่ถ้าคุณใช้เงินสด คุณจะถูกคิดค่าธรรมเนียมกดเงินสด 3% และดอกเบี้ย 18% ต่อปี แต่บัตรเครดิตต้องผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ 10% ของยอดเงินที่ต้องชำระตามใบแจ้งยอดรายการในแต่ละเดือน

การเลือกรูปแบบการคิดดอกเบี้ย ทั้งนี้ในการกู้ยืมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงินมักจะมีทางเลือกของรูปแบบของการคิดดอกเบี้ย คือ แบบลอยตัว ซึ่งจะอ้างอิงกับดอกเบี้ย MLR และ MRR ซึ่งดอกเบี้ยทั้งสองนี้จะไม่คงที่ โดยขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและแต่ละสถาบันการเงินจะคิดไม่เท่ากัน

และอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งหลายสถาบันการเงิน ใช้ดอกเบี้ยคงที่ในระดับต่ำเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจมาขอสินเชื่อ แต่มักจะใช้ได้ไม่เกิน 3 ปีแรกของการผ่อนชำระ พอเข้าสู่ปีที่ 4 เป็นต้นไป จะคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัว

ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ การกู้ยืม คุณไม่ควรตัดสินใจจากดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดอย่างเดียว แต่คุณต้องดูค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมว่า โดยรวมแล้วมากน้อยเพียงใด เพื่อมาตัดสินใจก่อนการลงนามในสัญญากู้ยืม

แม้คุณจะเลือกกู้หนี้กับสถาบันการเงินได้แล้ว แต่การก่อหนี้ที่ดีอยู่ที่ยืมมาแล้ว คุณใช้เพื่อประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ธ.ค. 2562 เวลา : 15:28:30
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 8:33 pm