ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ได้ ก่อนที่จะถูกขายทำกำไรลงมาในช่วงท้ายตลาด เหมือนเป็นการขายทำกำไรระยะสั้นทำให้เกิดการแกว่งตัวพอสมควร โดยวอลุ่มเพิ่มขึ้นแตะระดับสี่หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังปิด GAP ที่เปิดเอาไว้ในตอนเช้าอีกด้วย ในขณะที่ MACD ใกล้จะดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์แต่ยังต้องลุ้นอีกหลายวัน พร้อมทั้งสัญญาณ Golden cross ที่ใกล้จะตัดในอีก 2 วันนี้ หากวันนี้ (30 ธ.ค.) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 25 วันแถวๆ 1,575 จุดซะก่อน ดัชนีน่าจะขยับขึ้นต่อได้แถวๆ 1,591-1,593 จุดต่อไป
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองได้แก่ หุ้น SPRC ซึ่งมีแนวรับ 10.60-10.50 บาท และมีแนวต้าน 10.90-11.00 , 11.40 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดในระดับสูงของวันและทำ New high วันต่อวันได้อีกครั้ง หลังจากถูกขายทำกำไรกลับลงมาตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 10.60-10.50 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบ 10.90-11.00 บาท ก่อนขยับขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 11.40 บาทต่อไป
ส่วนหุ้น JKN มีแนวรับ 5.15-5.05 บาท และมีแนวต้าน 5.45 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดในระดับสูงของวันและทำ New high ในรอบ 1 เดือนได้อีกด้วย อีกทั้งยังขยับออกไปเล่นนอกกรอบ Bollinger Top เล็กน้อยแล้ว พร้อมวอลุ่มซื้อขายในระดับปานกลางต่อเนื่อง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 5.15-5.05 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับ 5.20 บาท ก่อนขยับขึ้นทำ New high แถวๆ 5.45 บาทต่อไป
และหุ้น CHAYO มีแนวรับ 5.25-5.20 บาท และมีแนวต้าน 5.40 , 5.50-5.60 บาท ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ และประคองตัวปิดได้ในระดับสูงของวันพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่ลดลงเล็กน้อย แต่ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์ได้แล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 5.25-5.20 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 5.40 บาท ขึ้นไปทำ New high ต่อแถวๆ 5.50-5.60 บาทต่อไป
ส่วนภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 11.20 น วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,513.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,477.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นราว 35.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ถึงแม้ตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมากพอสมควร โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,477.40-1,513.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งราคาทองคำปรับขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งยอดสินค้าคงทนสหรัฐ เดือนพฤศจิกายน ลดลง 0.2% ประกอบกับยอดขาย บ้านใหม่เดือนพฤศจิกายนของสหรัฐออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และปัจจัยที่ดันราคาทองคำให้ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 เดือนคือ ความกังวลที่สหรัฐยังแทรกแซงประเด็นฮ่องกง ซึ่งอาจทำให้ทางจีนไม่พอใจ ถึงแม้ทั้งคู่มีข่าวว่าบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษีการค้าระหว่างทั้งสองประเทศในเฟสแรกแล้วก็ตาม
ราคาทองคำโลก ปิดเหนือกรอบ Sideway Down บริเวณ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นมาได้แล้ว ทำให้ภาพกว้างของทองคำดูดีขึ้นมาก หากไม่ร่วงหลุดต่ำกว่า 1,475 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ราคาทองคำในระยะสั้นถือว่ากลับมาเป็นขาขึ้นอีกรอบแล้ว
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงแข็งค่าขึ้นราว 0.04 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.150 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.190 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 30.095-30.195 บาทต่อดอลลาร์
คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำว่าตามที่เราได้แนะนำไปก่อนหน้าให้ซื้อตามเมื่อราคาปิดเหนือ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเราได้แนะนำไว้ว่าเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,515 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งขึ้นมาเกือบถึงเรียบร้อยแล้ว หากราคาย่อมาบริเวณ 1,490-1,505 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังสามารถซื้อคืนกลับมาได้ แต่หากปิดเหนือ 1,519 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ควรซื้อตามเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง
สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายปีหน้าอยู่บริเวณ 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น