สำหรับปีหนูทอง ปี 2563 นี้ เชื่อว่าเป็นปีที่คู่รักจำนวนไม่น้อยที่กำลังเตรียมจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทั้งดารา ไฮโซ หรือมนุษย์เงินเดือนอย่างคุณๆ แต่การที่คนสองคนจะมาใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน คำว่า “ความรัก” อาจจะไม่ใช่คำตอบที่สำคัญที่สุดเสมอไป เพราะการที่คนสองคนที่มี ที่มาแตกต่างกันแล้วยังต้องมีส่วนผสมอีกมากมายมาเป็นองค์ประกอบด้วย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเข้าใจในความแตกต่างของคนสองคน การให้อิสระทั้งความคิด การกระทำและการใช้ชีวิต การแบ่งปัน ทั้งสุข และทุกข์ เปิดใจ เปิดหู และปิดปาก ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากและไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่อง "เงิน"
ทั้งนี้มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและคุณศิรัถยา อิศรภักดี มองว่าจากข้อมูลที่ค้นพบปัญหาใหญ่ที่สุดในชีวิตคู่ นั่นก็คือทัศนคติการเงินที่ต่างกัน เมื่อคุณรู้แบบนี้แล้วเชื่อหรือยังว่า “เรื่องเงินเท่ากับเรื่องใหญ่ในชีวิตคู่”
ดังนั้นวันนี้ขอหยิบเรื่องราว “10 ความเข้าใจผิดเรื่องเงิน ที่ทำลายชีวิตแต่งงาน” จาก Yahoo Finance มาฝากกัน เผื่อว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว (หรือใครที่ใช้ชีวิตคู่อยู่แล้ว) จะได้ใช้เป็นข้อคิดที่ควรหลีกเลี่ยง แล้วหันมาปรับทัศนคติ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้กับชีวิตครอบครัว
ไม่ค่อยพูดคุยเรื่อง “เงิน” เพราะบางครั้งเรื่อง “เงิน” มักอ่อนไหวเกินกว่าจะเข้าใจ แต่ถ้าคุณมัวแต่เกรงใจ ปากหนัก ไม่ยอมเปิดอกคุยเรื่องเงินแล้ว อาจสร้างปัญหาใหญ่ๆ ตามมาโดยที่คุณและคู่รักไม่รู้ตัว ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุดคือ ควรตั้งตัวเลขร่วมกันว่าสินค้าหรือบริการไหนที่มีวงเกินมากกว่ากี่พันบาท กี่หมื่นบาท ต้องมาปรึกษาหารือกัน ก่อนควักกระเป๋าจ่ายเงิน หรืออาจจะหาเวลาคุยกันสม่ำเสมอ
คิดว่า “ใช้เงินซื้อความรักได้ ถ้าคุณและคู่รักคิดว่าแหวนเพชรวงใหม่ รถหรู จะช่วยให้ชีวิตแต่งงานดีขึ้น ขอให้คิดใหม่ เพราะคุณและคู่รักหากเป็นคนประเภทวัตถุนิยม จะมีชีวิตคู่ที่แย่กว่าคนที่ไม่บูชาเงินหรือสิ่งของ
ไม่ยอมรับ “ความขัดแย้งเรื่องพฤติกรรมการใช้จ่าย” ผลสำรวจที่ตรงกันของ University of Pennsylvania, University of Michigan และ Northwestern University ก็คือสามีภรรยา ที่เห็นต่างกันเรื่องการใช้จ่ายเงิน มักไม่มีความสุขในชีวิตสมรส และ Utah State University ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งคิดว่า คู่รักของตนช่างใช้เงินแบบไม่ฉลาดเอาซะเลย เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณอันตราย ถึงโอกาสในการ “หย่าร้าง”
ไม่ตกลงกันว่าจะจัดสรรเงินยังไง ไม่ว่าจะแยกกระเป๋า รวมกันหรือแยกด้วยรวมด้วย ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้า “วางแผนการเงินชีวิตคู่” ไว้อย่างดี หากคุณหรือคนรักเป็นคนขี้สงสัย (โดยเฉพาะเรื่องเงิน) ว่าได้เงินมาเท่าไหร่? บอกเราหมดรึเปล่า? แอบไปใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นบ้างมั้ย? การแยกกระเป๋าก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับครอบครัวของคุณ ตรงกันข้าม...การรวมเงินไว้ในกระเป๋าเดียวกัน อาจเพิ่มความสบายใจ คลายข้อสงสัยได้มากกว่า
ก่อหนี้...มากเกินไป ต้องยอมรับเช่นกันว่า “เงิน” คือต้นตอของความเครียดในชีวิตของคนจำนวนไม่น้อยและคงไม่มีความเครียดเรื่องเงินเรื่องไหน ที่น่าเป็นห่วงมากไปกว่าเรื่อง “หนี้” โดยเฉพาะบรรดาหนี้ดอกเบี้ยสูง ซึ่งถ้ามันเข้ามาบงการชีวิตรักของเราหรือคู่รักของคุณแล้ว ย่อมทำให้สุขภาพการเงินอ่อนแอแน่นอน และความเครียดนั้นยังบั่นทอนความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย รู้แบบนี้ คุณต้อง“รีบจัดการหนี้”
วันนี้จัดมาให้ดูกันก่อน 5 ความเข้าใจผิดเรื่องเงินที่ทำลายชีวิตแต่งงาน รออีก 5 ความเข้าใจผิดที่คู่รักไม่ควรย่างกรายเข้าใกล้ในบทความหน้า แล้วเจอกัน...อดใจรอน้า
ข่าวเด่น