หุ้นทอง
เรื่องเงิน-ทองไม่เข้าใครออกใคร...ชีวิตคู่พังมาเยอะแล้ว (จบ)


เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้กล่าวถึง“10 ความเข้าใจผิดเรื่องเงิน ที่ทำลายชีวิตแต่งงาน” ที่ทาง Yahoo Finance รวบรวมไว้ไปแล้ว 5 ข้อ นั่นก็คือ ไม่ค่อยพูดคุยเรื่อง “เงิน” ตามด้วย คิดว่า “ใช้เงินซื้อความรักได้" ต่อด้วย ไม่ยอมรับ “ความขัดแย้งเรื่องพฤติกรรมการใช้จ่าย” ไม่ตกลงกันว่าจะจัดสรรเงินยังไงและก่อหนี้...มากเกินไป

 


 
 
วันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและศิรัถยา อิศรภักดี มานำเสนอส่วนที่เหลือกันต่อว่า ยังมีเรื่องทัศนคติด้านการเงินอะไรอีกบ้างที่คุณควรหลีกหนี ก่อนที่ปัญหานี้จะบั่นทอนการใช้ชีวิตคู่ของคุณและคู่รัก

การซ่อนบิล หรือ หนี้ เพราะคู่รักจำนวนไม่น้อยที่มักแอบซ่อนการใช้จ่ายบางอย่างไม่ให้อีกฝ่ายรู้และคู่รักจำนวนหนึ่งก็ยอมรับว่า การไม่ซื่อสัตย์เรื่องการเงินในครอบครัว ร้ายแรงพอๆกับการนอกใจ แต่ก็ยังดีที่คนกลุ่มนี้ไม่บอกคนที่บ้านแต่กลับไปบอกให้เพื่อนฟัง

ยืม หรือ ให้ยืมเงินกับคนในครอบครัว ถ้าคุณไม่เจอกับตัวเอง คุณคงไม่เข้าใจ เพราะฟังดูผิวเผิน การหยิบยืมหรือให้คนในครอบครัวยืมเงินก็น่าจะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันง่ายและไม่น่าจะสร้างปัญหาใดๆ แต่ข้อเท็จจริง ก็คือไม่ว่าจะเป็นการทวงถาม (ในฐานะผู้ให้ยืม)หรือการขอผ่อนผัน (ในฐานะผู้ยืม) ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายนัก และยังเป็นต้นเหตุของหลากหลายปัญหาที่ตามมา โดยเฉพาะถ้าเป็นญาติของคนรักคุณด้วยแล้วล่ะก็ ทวงเงินหน่อยก็หาว่าไม่มีน้ำใจ (ทั้งๆที่ครอบครัวเราเองก็ร้อนเงิน) หรือจะขอผัดผ่อนไปก่อน ก็ดันทำไม่ได้เพราะสามี (หรือภรรยา) บอกว่าเกรงใจญาติพี่น้อง (ทั้งๆที่ครอบครัวเราเองก็ฝืดเคือง) เป็นแบบนี้บ่อยๆเข้า รับรองว่ามีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ก่อหนี้กับคนในครอบครัวน่าจะเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมได้ดีกว่า

 
 
เชื่อตามคำสอนของคนสมัยก่อนแต่ก็อย่าลืมว่า ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ไลฟ์สไตล์หลายอย่างเปลี่ยนแปลงตาม เฉกเช่นเรื่องของ “เงิน” ที่คนรุ่นก่อนสอนให้แม่บ้านเป็นคนบริหารค่าใช้จ่ายรายวัน ส่วนพ่อบ้านก็ให้วางแผนการเงินครอบครัวและนำเงินไปต่อเงิน ซึ่งปัจจุบันนี้อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป วิธีการที่อาจจะดีกว่านั้น ก็คือ ดึงเอาจุดแข็งของคุณและคู่ชีวิต ที่มีมาใช้ทำในสิ่งที่ถนัด ช่วยกันบริหารเงิน เหมือนกับการที่บริษัทเฟ้นหาคนมาทำงานก็ต้อง put the right man in the right job นั่นเอง

ไม่เชื่อว่า “เงิน” ส่งผลต่อความรู้สึกแต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้ายิ่งมีการเห็นต่างกันเนิ่นนานขึ้นเรื่อยๆจะเป็นปมในใจของคู่รักและส่งผลให้เกิดความรู้สึกเชิงลบต่อกันในท้ายที่สุด

ไม่รู้สึกสนุกเวลาพูดคุยเรื่องเงินด้วยกัน เพราะการพูดคุยเรื่องเงิน อาจไม่มันเท่าการเม้าท์คนอื่นหรือคุยถึงเรื่องละครหลังข่าว แถมบางครั้งบทที่คิดว่าจะพูดเรื่องเงินปุ๊บ ความเครียดก็ถาโถมเข้ามาปั๊บ แต่จริงๆแล้วเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องหนักหัวเสมอไป เพราะ “เงิน” อยู่ในทุกบริบทของชีวิตเราอยู่แล้ว เช่น การเดินทาง ทานอาหาร ดูหนัง หรือแม้แต่การออกกำลังกาย ก็ใช้เงินทั้งนั้น

 
 
ดังนั้นลองมาเปลี่ยนวิธีการพูดคุยเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุกกันบ้างดีกว่า อาจจะด้วยการวางแผนไปเที่ยวด้วยกัน แล้วคุยกันว่าทริปนี้จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ดี ค่าที่พักอยู่ในราคาระดับไหน อาหารแต่ละมื้อน่าจะใช้จ่ายเท่าไหร่ เดินทางโดยสายการบินอะไรถูกและดี แค่นี้การคุยเรื่องเงินก็สนุกแล้ว

เมื่อคุณวางแผนการเงินครอบครัวแล้ว ก็ย่อมใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ จะไปเที่ยวไหน จะซื้ออะไร จะพาพ่อแม่ไปตากอากาศที่ไหนก็ทำได้ เพราะชีวิตคือการวางแผน และแผนการที่ดีก็เริ่มจากทัศนคติที่ดี ก่อนจะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ อย่าลืมปรับความเข้าใจเรื่องเงินซะใหม่ เส้นทางเดินของชีวิตรักจะได้ไม่มีเศษเหรียญใดมาทำให้ต้องสะดุด จบบริบูรณ์สำหรับ“10 ความเข้าใจผิดเรื่องเงิน ที่ทำลายชีวิตแต่งงาน”

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ม.ค. 2563 เวลา : 08:22:31
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 8:43 pm