ก.ล.ต. ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ณ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต. ดำเนินโครงการเพื่อสังคมแบบ CSR in process ให้ความรู้ด้านการออมแก่เด็กระดับปฐมวัย มุ่งปลูกฝังทักษะการออมและการบริหารจัดการเงินให้กับเยาวชน พร้อมทั้งเปิดตัววิดีโอนิทาน “พ่อแม่สอนหนู รู้จักใช้เงิน”
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมออกบูธงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ณ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ภายใต้แนวคิด “สุดยอดเด็กไทย ใส่ใจการออม” โดย ก.ล.ต. เป็น 1 ใน 16 องค์กรที่ร่วมออกบูธ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กและเยาวชน อายุ 6-12 ปี มากกว่า 1,000 คน
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. มียุทธศาสตร์ส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการออมระยะยาว และสนับสนุนให้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนทางการเงิน โดยมีภารกิจในการให้ความรู้ทางการเงินและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แก่ประชาชนและผู้ลงทุนตั้งแต่วัยทำงานไปจนถึงวัยเกษียณ ซึ่งการออมระยะยาวจำเป็นต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยการรู้จักบริหารจัดการเงินอย่างมีวินัย และสร้างนิสัยการออม การเข้าร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 จึงเป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต. ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้สำหรับเด็กระดับปฐมวัย ซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้และจดจำ พร้อมรับการปลูกฝังความรู้ทางการเงินเพื่อเป็นทักษะพื้นฐานของชีวิต”
ภายในบูธได้จัดฐานกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อสร้างนิสัยการรู้จักใช้เงิน และออมเงินเป็น โดยมีการเล่นเกมส์ “ต้องมีหรืออยากมี” เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถแยกสิ่งจำเป็นออกจากสิ่งฟุ่มเฟือยได้ และมีวิดีโอนิทาน “พ่อแม่สอนหนู รู้จักใช้เงิน” ที่ ก.ล.ต. จัดทำขึ้นใหม่ มี “น้องต้นข้าว” เป็นตัวการ์ตูนหลักเล่าเรื่องเกี่ยวกับการใช้เงิน การออมเงิน พร้อมตัวอย่างที่สามารถเข้าใจง่าย เด็กๆจะรู้จักการใช้เงินสำหรับสิ่งจำเป็นและปลูกฝังการออมและพ่อแม่ก็สามารถนำวิดีโอดังกล่าวไปใช้สอนเรื่องการประหยัดและอดออมแก่ลูกๆได้ นอกจากนี้ภายในบูธจะมีเกมตอบคำถาม และมุมทำกิจกรรมระบายสีกัปตัน ก.ล.ต. และน้องต้นข้าว เพื่อส่งเสริมทักษะทางศิลปะให้แก่เยาวชนอีกด้วย
สำหรับเด็กและเยาวชนทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม ณ บูธ ก.ล.ต.จะได้รับสมุดบัญชีรายรับ-รายจ่าย “30 วัน ฉันทำได้” เพื่อให้ได้ทดลองจดบัญชีรายรับ-รายจ่ายของตัวเอง และเริ่มต้นออมเพื่อไปสู่เป้าหมายทางการเงินด้วยตนเอง
ข่าวเด่น