หุ้นทอง
ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีลุ้นไปต่อ แนะจุดเข้าซื้อทอง 1,540-1,545 ดอลล์


ดัชนีมีความพยายามดีดกลับขึ้นทำ New high วันต่อวันต่อเนื่องอีกเล็กน้อย โดยไม่หลุดลงมาทำ New low อีกทั้งยังไม่หลุดปิดต่ำกว่าแนวรับแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,574 จุด ในขณะที่ MACD พยายามดีดกลับแต่ยังไม่พ้นระดับศูนย์ แต่วอลุ่มซื้อขายยังมีเข้ามาสม่ำเสมอต่อเนื่อง 


 
 
 
 
หากวันนี้ (13 ม.ค.) ดัชนีประคองตัวไม่หลุดลงไปทำ New low ต่ำกว่าแถวๆ 1,573 จุดซะก่อน ดัชนีหุ้นไทยจะมีลุ้นขึ้นต่อเพื่อปิด GAP ที่เปิดไว้ในรอบสัปดาห์แถวๆ 1,592 จุด ผ่านได้เร็วค่อยเพิ่มลุ้นขึ้นต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1,600 จุดต่อไป

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น RATCH  ซึ่งมีแนวรับ 70.75 , 70.00 บาท และมีแนวต้าน 72.00 , 75.50 บาท โดยระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 5 สัปดาห์พร้อมด้วยปริมาณวอลุ่มที่สูงขึ้นมาก ประกอบกับ MACD ที่ใกล้ดีดกลับพ้นระดับศูนย์แล้ว อีกทั้งระดับราคายังขยับออกไปเล่นและปิดนอกกรอบ Bollinger Top แล้ว หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 70.75 บาทอีกหรือเต็มที่ไม่หลุด 70.00 บาท ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับผ่าน 72.00 บาท ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 75.50 บาทต่อไป

ถัดมาคือหุ้น GULF ซึ่งมีแนวรับ 175-174 บาท ส่วนแนวต้าน 179.50 , 183.50 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกครั้ง โดยระดับราคาสามารถประคองตัวปิดได้ในระดับสูงสุดของวันอีกด้วย ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายลดลงเล็กน้อยแต่ MACD ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังผ่านขึ้นยืนเหนือศูนย์ได้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 175-174 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 179.50 บาท ก่อนผ่านขึ้นไปแถวๆ 183.50 บาทต่อไป

และหุ้น KKP ซึ่งมีแนวรับ 68.25-68.00 บาท และมีแนวต้าน 69.25-69.50 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกครั้ง อีกทั้งยังผ่านขึ้นไปเล่นและปิดนอกกรอบ BollingerTop ได้อีกด้วย พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ประกอบ MACD ที่เพิ่งผ่านระดับศูนย์ขึ้นมา ไม่วกกลับลงไปซะก่อน หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 68.25-68.00 บาทอีกยังน่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 69.25-69.50 บาทต่อไป

ส่วนภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 13.10 น วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,547.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,552.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับลงราว 4.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ระหว่างสัปดาห์ราคาผันผวนสุดในรอบ 4 เดือน จากเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างสหรัฐและอิหร่าน

ขณะที่ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมาก โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,540.22 – 1,611.18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งราคาทองคำปรับขึ้นทันทีต่อจากปลายสัปดาห์ก่อนหลังสหรัฐ ประกาศว่าสหรัฐมีการใช้โดรนโจมตีขบวนรถของ นายพลสุไลมานี่ ผู้มีอิทธิพลมากสุดอันดับสองของอิหร่าน โดยสหรัฐอ้างว่า นายพลสุไลมานี่ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของผู้ชุมนุมประท้วงที่ไปปิดล้อมสถานทูตสหรัฐในอิรักและเป็นผู้ก่อการร้ายตัวสำคัญคนหนึ่ง โดยราคาทองคำปรับขึ้นไปถึงระดับ 1,587 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทันทีในวันจันทร์เริ่มต้นสัปดาห์ และราคาพุ่งต่อทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหลังเช้ามืดของวันพุธ ทางอิหร่านตอบโต้โดยการยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 12 ลูกไปยังฐานทัพอากาศสหรัฐที่ตั้งอยู่ในประเทศอิรัก ทำให้ราคาทองคำไปทำจุดสูงสุดในรอบ 80 เดือนที่ 1,611 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

แต่หลังจากนั้น ราคาทองคำโลกเริ่มปรับลงหลังสถานการณ์ที่ตลาดคาดว่าจะรุนแรงแต่กลับคลี่คลายลงหลังประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมพ์ได้ประกาศจะไม่ตอบโต้อิหร่านและหวังว่าจะจับมือกันพัฒนาให้อิหร่านเป็นประเทศที่น่าอยู่ขึ้น ทำให้ราคาทองคำโลกปรับลงมาแตะระดับ 1,540 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะเด้งขึ้นมาเล็กน้อยที่ 1,547.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงแข็งค่าขึ้นราว 0.03 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.135 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.165 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 30.105-30.37 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำว่าตามที่เราได้แนะนำไปก่อนหน้าให้ซื้อตามเมื่อราคาปิดเหนือ 1,490 ดอลลาร์อีกครั้ง และราคาได้ถึงเป้าหมายทั้ง 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับแล้ว แม้ราคาจะมีการปรับลงจากจุดสูงสุดมาถึง 1,540 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่ยังคงเป็นการยกจุดต่ำสุดของขาขึ้นรอบนี้อยู่ จึงยังสามารถเข้าไปเก็งกำไรซื้อระยะสั้นได้  โดยจุดเข้าซื้ออยู่บริเวณ 1,540-1,545 ดอลลาร์ต่อออนซ์และเป้าในการขายเก็งกำไรคือ 1,555-1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคากลับมายืนเหนือ 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ให้ซื้อเก็งกำไรตามทันที โดยเป้าระยะสั้นถัดไปอยู่ที่ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายปีนี้อยู่บริเวณ 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงแม้จะไม่เกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน เนื่องจากเรามองว่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐมีการปรับตัวขึ้นสูงมากแม้สภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่อยู่ในช่วงเติบโตที่ดี ทำให้มีโอกาสที่เงินทุนจะไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำทันทีเมื่อมีเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ม.ค. 2563 เวลา : 08:50:01
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 10:46 pm