หุ้นทอง
วิธีเลือกหุ้นปันผลดี ต้องมีคุณสมบัติ 8 ประการ


สำหรับคุณและผู้ลงทุนที่ชื่นชอบหรือนิยมการลงทุนในหุ้นปันผล พอใกล้ๆสิ้นปีก็เริ่มจับตามองและประเมินกันว่า หุ้นตัวไหนจะจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นกี่บาท (EPS) มีอัตราปันผลตอบแทน (Dividend Yield) กี่เปอร์เซ็นต์

 


 
 
ดังนั้นวันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ และคุณฐิติเมธ โภคชัย มาแนะนำวิธีการเลือก หุ้นที่มีคุณสมบัติที่ดีของหุ้นปันผล 8 คุณสมบัติ

คุณสมบัติแรก เลือกบริษัทที่เต็มใจและมีความพร้อมที่จะจ่ายเงินปันผล โดยให้ดูบริษัทที่สร้างผลกำไรที่สม่ำเสมอมั่นคง (ไม่ใช่เป็นบริษัทที่มีกำไรไม่แน่นอน ปีนี้กำไรมาก ปีหน้ากำไรน้อย ปีถัดไปขาดทุน) ดังนั้นเวลาดูว่าบริษัทมีผลประกอบการ ผลกำไรมั่นคงแน่นอน ต้องกลับไปดูผลการดำเนินงานในอดีตว่าเป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะดูย้อนหลัง 5 ปีขึ้นไป โดยดูว่าผลกำไรที่ทำได้สม่ำเสมอหรือว่าขึ้นๆลงๆ

คุณสมบัติที่สอง เลือกจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่ไม่ผันผวน โดยเวลาเลือกหุ้นปันผล คุณต้องมองข้ามหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะเป็นธุรกิจที่ไม่แน่นอน หากเป็นช่วงที่ธุรกิจเป็นวัฎจักรขาลง การซื้อหุ้นเพื่อรอรับปันผลไปเรื่อยๆ คงไม่เหมาะสมมากนัก เพราะถ้าธุรกิจมีความผันผวน ย่อมทำให้ผลการดำเนินงานผันผวนตามไปด้วย สำหรับหุ้นกลุ่มที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอและน่าจับตามอง ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หุ้นกลุ่มธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า
 
คุณสมบัติที่สาม บริษัทมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งเพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผลมากน้อยแค่ไหน โดยให้ดูที่โครงสร้างหนี้ว่า มีหนี้สินต่อทุนสูงเกินไปหรือไม่และโครงสร้างหนี้เป็นหนี้ระยะสั้นหรือระยะยาว (ถ้ามีหนี้ระยะสั้นมากๆ ความพร้อมในการจ่ายเงินปันผลอาจจะมีน้อย)   

คุณสมบัติที่สี่ ดูกระแสเงินสด ซึ่งนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจน้อยมาก เพราะหลักๆจะดูแค่กำไรขาดทุนเป็นหลัก แต่ความจริงแล้วกระแสเงินสดมีความสำคัญที่สุด เพราะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความสามารถจ่ายเงินปันผลหรือไม่ โดยให้ไปดูที่งบกระแสเงินสดว่า บริษัทนั้นๆมีกระแสเงินสดเป็น “บวก” หรือ “ลบ” เมื่อทำธุรกิจและมีรายได้เข้ามา จะเป็นกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ซึ่งผู้บริหารของบริษัทจะไปจัดสรรเงินดังกล่าวว่าจะนำไปทำอะไรบ้าง เช่น นำไปลงทุน นำไปจ่ายหนี้ หรือเป็นเงินปันผล ดังนั้น หากกระแสเงินสด “ติดลบ” หากคิดจะจ่ายปันผล ก็คงต้องไปกู้เงินมาจ่ายปันผล ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ดีนัก

คุณสมบัติที่ห้า ดูราคาหุ้น โดยให้ดูที่ Low Beta ถ้าเป็นหุ้นปันผลจะต้องมี Beta ต่ำๆ หมายความว่า ลงทุนไปแล้วและหวังเงินปันผลก็ไม่ต้องไปกังวลกับความผันผวนด้านราคามากจนเกินไป

คุณสมบัติที่หก เลือกลงทุนหุ้นปันผลที่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย โดยเลือกหุ้นปันผลที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่พอสมควร แต่ถ้าเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปน้อยๆ ต้องเลือกหุ้นที่มีการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) มากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด  

คุณสมบัติที่เจ็ด ดู Pay-out Ratio ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ โดยอาจจะเลือกหุ้นที่มี Pay-out Ratio มากกว่า 50% ขึ้นไป เพราะเป็นระดับที่บ่งชี้ว่ามีการดำเนินงานที่นิ่ง เพราะบริษัทไหนที่อยู่ในช่วงขยายกิจการ ก็ต้องเก็บเงินเอาไว้ขยายกิจการ ทำให้ระดับการจ่ายเงินปันผลลดลงตามไปด้วย

และคุณสมบัติที่แปด ให้ลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงกว่าระดับเงินเฟ้อ เพราะถ้าต่ำกว่าเงินเฟ้อก็ไม่มีประโยชน์และถ้าจะให้ดีที่สุดเงินปันผลจะต้องสูงกว่าระดับเงินเฟ้อบวกกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ม.ค. 2563 เวลา : 07:54:51
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 10:46 pm