แม้ที่ผ่านมาจะพยายามปลุกกระแสและสร้างความรู้ความเข้าใจ ถึงการวางแผนการออม เพื่อใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายหลังจากเกษียณอายุการทำงานแล้ว คุณจะได้มีเงินใช้เลี้ยงดูตัวเองอย่างเพียงพอ และใช้ชีวิตช่วงวัยไม่ได้ทำงานอย่างมีความสุข แต่เชื่อว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ค่อยนึกถึงและไม่ค่อยให้ความสำคัญ โดยเฉพาะถ้าพูดเรื่องนี้กับวัยเริ่มต้นทำงาน คนในวัยนี้จะยิ่งรู้สึกว่าการวางแผนเกษียณกลับเป็นเรื่องไกลตัว ในทางกลับกันถ้าพูดกับผู้ที่อายุวัยกลางคน หลายคนเริ่มรู้สึกว่าอาจสายไปเสียแล้ว แถมอาจจะยังเก็บเงินเพื่อเกษียณไม่พอ
วันนี้มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและคุณศรัณยู โชติสถิตธรรม มาทบทวนกันอีกครั้งว่า คุณควรจะเริ่มต้นวางแผนเพื่อการเกษียณ เมื่อไรและอย่างไร ขอบอกเลยว่าการวางแผนเกษียณอายุ ไม่มีช้าไป ไม่มีเร็วไป แต่อยู่ที่ว่าเริ่มลงมือทำเมื่อไร หากเริ่มต้นได้เร็วเท่าไร คุณก็จะยิ่งบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้เร็วเท่านั้น ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มวางแผนเกษียณอายุ สิ่งแรกที่คุณต้องพิจารณา คือ คุณควรทราบว่าตัวคุณเองควรมีเงินประมาณเท่าไร เพื่อใช้ในวัยเกษียณ ณ วันที่หยุดทำงานและไม่มีรายได้ประจำ
มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและคุณศรัณยู ขอย้ำว่าโดยส่วนใหญ่ผู้คนจะเกษียณอายุประมาณ 60 ปี ดังนั้นสิ่งที่ควรพิจาณามีดังนี้ เริ่มจากดูว่า ปัจจุบันอายุเท่าไร เพื่อพิจารณาช่วงระยะเวลาที่เหลือในการทำงานหาเงิน ก่อนวันที่จะเกษียณอายุ คุณต้องคาดว่าหลังเกษียณอายุ คุณจะใช้เงินไปอีกกี่ปี (หรือจะเสียชีวิตที่อายุเท่าไร) เพื่อพิจารณาช่วงระยะเวลาในการใช้เงิน จากข้อมูลสถิติ พบว่าคนไทยส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยโดยประมาณ ผู้ชาย 77 ปี และผู้หญิง 83 ปี ดังนั้นหากเกษียณอายุที่ประมาณ 60 ปี หมายความว่าต้องใช้ชีวิตต่อไปอีกอย่างน้อย 20 - 30 ปี กว่าจะเสียชีวิต
เมื่อรู้ว่าหลังเกษียณแล้ว คุณต้องใช้ชีวิตไปอย่างน้อยอีกกี่ปีแล้วและต้องรู้ว่าคุณควรจะต้องมีเงินอย่างน้อยเท่าไรเพื่อไว้ใช้ในวัยเกษียณ เพราะจากข้อมูลสถิติพบว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของครัวเรือนไทยในกรุงเทพฯ อยู่ที่ประมาณ 34,127 บาทต่อเดือน ดังนั้นถ้ามีอายุหลังเกษียณไปอีก 25 ปี ควรมีเงินที่ต้องใช้ในวัยเกษียณประมาณ 10,238,100 บาท(คำนวณจากค่าใช้จ่าย 34,127 บาท x 12 เดือน x 25 ปี) เมื่อรู้ว่าคุณจะต้องใช้เงินเท่าไรแล้ว จะหาเงินจากที่ไหน เพื่อเตรียมเอาไว้ใช้ในวัยเกษียณ
ดังนั้นหน้าที่คุณ คือจะเก็บออมเงินให้ได้หลักสิบล้าน เพื่อใช้ในวัยเกษียณ ซึ่งวิธีการนั้นก็จะมีเครื่องมือมากมายเพื่อเป็นแหล่งเงินออมเพื่อวัยเกษียณของคุณ แหล่งเงินออมนั้นก็จะประกอบด้วย กองทุนประกันสังคม, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, เงินชดเชยตามกฎหมาย, กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญเป็นต้น แต่เครื่องมือที่เป็นแหล่งเงินออมที่วิเศษที่สุดและอยู่ใกล้ตัวที่สุด เหมือนมีผู้ช่วยเก็บออมเพื่อวัยเกษียณ ก็คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ดังนั้นมารู้จัก"กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ"คืออะไรและมีประโยชน์กับคุณอย่างไร
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ซึ่งเปรียบเสมือนบริษัทจะมีสวัสดิการที่เป็นกระปุกออมเงิน โดยลูกจ้างจะเก็บออมเงิน เรียกว่า “เงินสะสม” (ในอัตรา 2 - 15% ขึ้นอยู่กับข้อบังคับกองทุนของแต่ละบริษัท) หลังจากลูกจ้างเลือกเก็บออมเงินแล้ว นายจ้างจะช่วยเก็บออมเงินอีกแรง เรียกว่า “เงินสมทบ” (ในอัตรา 2 - 15% ขึ้นอยู่กับข้อบังคับกองทุนของแต่ละบริษัท) ซึ่งนายจ้างจะช่วยเก็บออมเงินแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกเดือนจนถึงวันที่ลูกจ้างออกจากงานหรือเกษียณอายุ (อย่าลืม พิจารณาข้อบังคับกองทุน กรณีออกจากงาน) อีกทั้ง เงินก้อนนี้ยังถูกนำไปลงทุนในนโยบายการลงทุนที่ลูกจ้างเลือกลงทุนทุกเดือน เพื่อสร้างผลตอบแทน
แล้วคุณจะได้รับเงินประมาณเท่าไรจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เพราะจากข้อมูลสถิตในอดีต พบว่ามีจำนวนผู้เกษียณอายุที่รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จำนวน24,374 คน โดยมีสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเกือบ 60% ที่รับเงินจากกองทุน มูลค่าน้อยกว่า 1 ล้านบาท ในทางกลับกันก็มีสมาชิกเกือบ 10% ที่รับเงินจากกองทุน มูลค่ามากกว่า 5 ล้านบาท เพื่อเตรียมเอาไว้ใช้ในวัยเกษียณ ดังนั้นตอนเกษียณอายุอยากรับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเท่าไร ก็สามารถเลือกได้ตั้งแต่วันนี้ ถ้ามีการออกแบบการเลือกลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีความสำคัญต่อการเกษียณอย่างไร จะเห็นว่า ในการวางแผนเกษียณอายุต้องเก็บให้ได้หลายล้านบาท ซึ่งถือว่าเยอะสำหรับบางคน แต่วันนี้ได้คำตอบแล้วว่าควรเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยเท่าไรและเก็บเงินอย่างไร เพื่อเอาไว้ใช้ในวัยเกษียณ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นแหล่งเงินออมที่สำคัญสำหรับการเกษียณอายุ อย่าละเลยที่จะดูแลเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตัวเองให้ดี ดังนั้นคุณควรเริ่มเก็บออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะยิ่งออมนาน ยิ่งดี และถ้าหากคุณเก็บออมเงินสะสมในอัตราที่สูงหรือยิ่งออมเยอะ ยิ่งดี และควรเลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสม เพราะยิ่งผลตอบแทนสูงยิ่งดี ถ้าคุณใส่ใจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็จะยิ่งช่วยให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายการวางแผนเกษียณได้และเกษียณได้อย่างมีความสุขแน่นอน อะไรดีกับตัว ยิ่งควรเร่งทำ อย่ารอช้า เพราะถ้าคุณละเลยนิดเดียว วัยเกษียณของคุณจะไม่สุขอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น