ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้มีอาการผันผวนอย่างหนัก ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง จนทำให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายรายที่มีความพร้อมทางการเงิน ต่างพากันประกาศซื้อหุ้นคืน (Tresury Stock) อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณว่าราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน “การที่บจ.ประกาศซื้อหุ้นคืน เท่ากับเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน” โดยในสัปดาห์นี้ พบว่ามี บจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนถึง 4 บริษัท ได้แก่ CK, KBANK, SPALI และ TPIPL ซึ่งราคาหุ้นหลังประกาศถึงปัจจุบัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี 5.3%, 5.9%, 1.8% และ 3.3% ตามลำดับ
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ไปดูข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 10 ปี ในกลุ่มตัวอย่างบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนเกือบทั้งหมดราว 42 บริษัท และส่วนใหญ่จะประกาศซื้อหุ้นคืนในปีที่ตลาดหุ้นปรับฐานแรงเสมอ
โดยปี 2558 SET Index ปรับฐาน 14% (ลดลงมากสุดในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา) มีบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืน 5 บริษัท และมีมาต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2559 อีก 4 บริษัท ซึ่งในปี 2559 SET Index ฟื้นตัวกว่า 19.8%
ปี 2561 SET Index ลดลง 10.8% (ลดลงมากสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา) มีบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนถึง 13 บริษัท หลังจากนั้น 6 เดือน SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% ในช่วงครึ่งแรกปี 2562
ปี 2562 ส่วนใหญ่บจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนในช่วงครึ่งหลังของปีราว 15 บริษัท หลังจากที่ SET Index ปรับฐานลงมาเยอะ
ปี 2563 มีบจ.ประกาศซื้อหุ้นคืน 4 บริษัท หลังจากที่ SET Index ปรับตัวลงกว่า 3.5% นับตั้งแต่ต้นปีมา
หากดูจากภาพรวมของ SET Index เห็นได้ว่าหลัง บจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวนมาก SET Index มักตอบสนองเชิงบวก และหุ้นมีโอกาสรีบาวด์กลับระยะถัดไปเสมอ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะนักลงทุนตอบรับสัญญาณที่ผู้บริหารส่งออกมาว่า ราคาหุ้นมี Valuation ที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามความต่อเนื่องการปรับขึ้นของราคาหุ้น ยังขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมอื่นๆด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงหนุนจาก Fund Flow
ฝ่ายวิจัยฯได้วิเคราะห์ค้นหาช่วงเวลาในการลงทุนหุ้นที่ถูกซื้อหุ้นคืน จากข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี พบว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือซื้อหุ้นดังกล่าวในวันที่ประกาศซื้อหุ้นคืนและขายทำกำไรใน 1 เดือนถัดมา พบว่ามีโอกาสได้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยราว 2.6% บางบริษัทให้ผลตอบแทนเกิน 10%
เห็นได้ว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพยุงราคาหุ้น บวกกับความคาดหวัง EPS เพิ่มขึ้นจากจำนวนหุ้นที่ลดลงตามจำนวนที่ซื้อคืน รวมถึงเป็นการส่งสัญญาณของผู้บริหารว่าหุ้นบริษัทตัวเองถูกเกินไป อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ราคาหุ้นส่วนใหญ่จะย่อตัวลงตามลำดับ โดยเฉพาะหลังจากประกาศซื้อ หุ้นคืนเกิน 6 เดือน ผลตอบแทนที่ได้มีโอกาสย่อตัวจนติดลบ เนื่องจากบริษัทมีระยะเวลาในการซื้อหุ้นคืนได้ไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่กดดันราคาและยังสอดคล้อกับสถิติในอดีต
ดังนั้นจากข้อมูลในอดีต ช่วงเวลาที่บจ.ประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวนมาก ภาพรวมตลาดมีโอกาสฟื้นตัวในระยะถัดไปเสมอ ส่วนราคาหุ้นบริษัทที่ถูกประกาศซื้อหุ้นคืน มักปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีในระยะสั้น (ดีสุดคือ 1 เดือนหลังประกาศ) ส่วนระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ราคามักย่อตัวลงและราคาหุ้นหลายบริษัทติดลบ สวนทางตลาดที่เริ่มฟื้นขึ้น
ข่าวเด่น