MC มั่นใจรายได้งวดปี 62/63 โตตามเป้า 8-10% หลังปรับแผนงานใหม่ เน้นทำตลาดมีประสิทธิภาพทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ระบุยังหาโอกาสซื้อกิจการและร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อเสริมธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับแมคยีนส์ผ่านกลยุทธ์หลัก 4C
นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยว่าผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังรอบปีบัญชี 62/63 จะดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ที่ผ่านมา เนื่องจากการปรับแผนงานต่างๆ ทั้งรูปแบบการทำการตลาด รูปแบบร้านและรูปแบบการขาย โดยการเชื่อมต่อ Platform offline กับ online เข้าด้วยกัน เพื่อขยายตลาดและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ B O S S (Buy Online Ship at Shop)ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในงวดปี 62/63 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 8-10%
ส่วนความคืบหน้าการซื้อกิจการหรือร่วมทุนกับพันธมิตรนั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและหาความเป็นไปได้ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จากสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เช่น เกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือกว่า 1,000 ล้านบาทและไม่มีหนี้เงินกู้ จึงมีความพร้อมในการลงทุนเพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและขยายการเติบโตของบริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส2 รอบปีบัญชี 2563 (1 ต.ค.-31 ธ.ค.2562) มีรายได้จากการขายสินค้าและอัตรากำไรสุทธิ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยรายได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 1,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม 9.4% โดยเฉพาะร้านค้าปลีกของตนเองที่เพิ่มขึ้น 18.4% แตะ 671 ล้านบาท ห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น 9.4% แตะ 368 ล้านบาท และร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น 41.3% แตะ 94 ล้านบาท ดันรายได้โตเฉลี่ย 8% ต่อปีและรักษาอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 14-16%
ทั้งนี้รายได้และกำไรสุทธิที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3ปี สวนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดค้าปลีกที่ชะลอตัว สะท้อนสัญญาณTurnaround อย่างชัดเจน ซึ่งเกิดจากแผนงานการบริหารจัดทัพเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานธุรกิจและยกระดับแบรนด์แม็คยีนส์ ผ่านกลยุทธ์หลัก 4C ได้แก่
1.Customer-centric and Data-driven Approach ดึง Big Data ที่มีมายาวนานกว่า 45 ปี วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภค เพื่อออกแบบและพัฒนาสินค้าใหม่ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สอดรับเทรนด์ยุคปัจจุบัน
2.Customer Base Expansion สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ ด้วยการเชื่อมต่อออฟไลน์ที่มีกว่า 600 จุดในปัจจุบันเข้ากับออนไลน์ อย่างไร้รอยต่อ ขยายความร่วมมือพันธมิตรแบรนด์ใหม่ๆและใช้Influencer กระตุ้นการรับรู้และจดจำแบรนด์ในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่
3.Connected Supply-chain บริหารจัดการซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
4.Captivate Brand Experience สร้างประสบการณ์ที่ดีในแบรนด์สินค้า ผ่านคอนเซ็ปต์Authentic Chic
"ท่ามกลางเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีความท้าทายรอบด้าน ทั้งการระบาดของไวรัสโคโรนา สงครามการค้า และกำลังซื้อที่ชะลอลง เราต้องบริหารจัดการทุกอย่างให้ดีตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ สร้าง Brand Value เพิ่มขึ้น คัดสรรสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้า ไปพร้อมๆกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ จึงจะทำให้เราแข็งแรงพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนได้"นางชนัญญารักษ์กล่าว
ข่าวเด่น