ดัชนีมีความพยายามประคองตัวแกว่งตัวแคบๆ ตลอดทั้งวัน โดยไม่มีการทำ New high ในขณะที่ดัชนีพยายามเลี้ยงตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน แต่ในที่สุดช่วงบ่ายดัชนีก็หลุดลงมาทำ New low อีกทั้งยังหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันอีกด้วย ส่วนหนึ่งเป็นการขายทำกำไรสวนตลาดกลับลงมาของ BAM หลังจากที่ระดับราคาปรับตัวขึ้นแรงมากมาโดยตลอด ร่วมด้วย OSP ที่ขายทำกำไรระยะสั้นกลับลงมาที่เดิมจากแรงซื้อที่ขึ้นไปในวันก่อนหน้า
ดังนั้นวันนี้ (17 ก.พ.)หากดัชนีประคองตัวยืนปิดเหนือจุดต่ำสุดเดิมในรอบสัปดาห์แถวๆ 1522 จุดไม่ได้เป็นอย่างน้อยอีก จะกลายเป็น New low ในรอบสัปดาห์มีโอกาสที่ดัชนีจะซึมลงต่อแถวๆ 1510 จุดต่อไป แนวต้านสั้นๆ 1530-1535 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ ได้แก่ PORT ซึ่งมีแนวรับ 2.22 บาท แนวต้าน 2.28 , 2.36-2.38 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบสัปดาห์ พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ MACD กำลังดีดกลับแต่ยังไม่พ้นระดับศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 2.22 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 2.28 บาทอีกครั้ง โดยมีลุ้นผ่านขึ้นไปแถวๆ 2.36-2.38 บาทต่อไป
นอกจากนี้ยังมีหุ้น STA ซึ่งมีแนวรับ 12.00 บาท แนวต้าน 12.50 , 13.10 บาท ระดับราคาดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 7 วัน โดยมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ถูกขายทำกำไรระยะสั้นในช่วงท้ายตลาด กดให้ระดับราคาถอยกลับลงมาพอสมควร ในขณะที่ MACD ยังไม่หลุดต่ำกว่าศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันแถวๆ 12.00 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 12.50 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 13.10 บาทต่อไป
และอีกตัวที่น่าจับตามองคือ CMC ที่มีแนวรับ 0.87 บาท แนวต้าน 0.90-0.91 , 0.95 บาท ระดับราคามีความพยายามดีดกลับ โดยขยับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 1 เดือนพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมายืนปิดเหนือศูนย์ได้แล้ว หากวันนี้ระดับราคาถอยกลับลงมาแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 0.87 บาทอีก น่าซื้อเล่นสั้น ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 0.90-0.91 บาทและ 0.95 บาทได้ต่อไป
ด้านบรรยากาศตลาดทองคำ สรุปภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 10.30 น วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,574.00 ดอลลาร์ต่อต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,570.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นประมาณ 3.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากประธานธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณพร้อมใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหากเศรษฐกิจสหรัฐไม่ฟื้นตัวต่อเนื่อง
ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผันผวนน้อยลง แต่ยังปรับขึ้นต่อเนื่องได้อยู่ โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,561.80-1,578.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำปรับลงก่อนหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไวรัสโควิด 19 นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอัตรานี้ต่ำลงจากสองสัปดาห์ก่อนหน้า ก่อนที่ตลาดทองคำเริ่มฟื้นบวกขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์หลังประธานเฟดได้ให้ความเห็นว่า เฟดพร้อมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและใช้มาตรการ QE ในอนาคตหากเศรษฐกิจสหรัฐย่ำแย่ลง นอกจากนี้ทางการจีนมีการเปลี่ยนวิธีนับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ให้นับรวมจำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจผ่านคลินิกด้วย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นมาอีกนับหมื่นกว่าราย
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นมา 0.20 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.120 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 32.320 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 31.065-31.380 บาทต่อดอลลาร์
ดังนั้นจึงแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ราคาแกว่งอยู่ในกรอบ 1,545.1,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำซื้อบริเวณ 1,545-1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนน่าจะได้ของมาแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป้าหมายอยู่บริเวณ 1,570-1,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งขึ้นมาถึงแล้ว แนะนำให้ถือทองคำต่อไปหากยังไม่ได้ขาย ไว้รอขายเมื่อหลุดต่ำกว่า 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากยังมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นต่ำไปเหนือ 1,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายปีนี้อยู่บริเวณ 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไม่ใช่เพียงไวรัสโคโรน่า หรือความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านที่ทำให้ทองคำน่าสนใจ นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำแต่เศรษฐกิจในหลายประเทศหลักๆยังไม่ฟื้นตัวได้ดีชัดเจน ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงจากปัญหาด้านเศรษฐกิจได้อีกในอนาคต ทองคำจึงยังเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากตราสารทางการเงินหรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
ข่าวเด่น