หุ้นทอง
แกะรอย"หุ้นสื่อสาร"ตัวไหนน่าสนใจหลังควักเงินจ่ายค่าประมูล 5 G แพงลิ่ว


สำหรับการประมูลคลื่น 5G ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ทั้งนี้ราคาคลื่นที่ประมูลกันได้ ปรากฎว่าแพงกว่าที่ฝ่ายวิจัยลบ.เอเซียพลัส หรือ ASPS คาดไว้ 37% จากราคาที่สูงเกินคาดดังกล่าว มาดูกันว่าจะมีผลต่อกลุ่มสื่อสารอย่างไรและยังมีหุ้นตัวไหนในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจอยู่

 
ทั้งนี้ผลการประมูล 5G ทั้งสิ้น 3 คลื่นความถี่  ได้แก่ 700 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz รวมมูลค่า 1.0 แสนล้านบาท สรุปผลประมูลดังนี้ 1. คลื่น 700 MHz 3 ใบอนุญาต ADVANC และ CAT ชนะประมูล 1 และ 2 ใบ คลื่น 2600 MHz 19 ใบอนุญาต ADVANC และ TRUE ชนะประมูล 10 และ 9 ใบ 3. คลื่น 26 GHz 27 ใบอนุญาต ADVANC TRUE TOT และ DTAC ชนะประมูล 12 8 4 และ 6 ใบ 
 
 
 
 
โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินโดยรวมแล้ว ผลประมูลที่ออกมาไม่ได้สร้าง Downside ที่มีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมแม้ราคาประมูลคลื่นจะสูงราว 6.4 หมื่นล้านบาท สูงกว่าคาด 37.6% แต่ทั้งหมดมาจากคลื่น 700 MHz ที่ ADVANC ชนะไป 1 ใบอนุญาต เมื่อมาดูเฉพาะคลื่น 2600 MHz และ 26 GHz ที่เอกชนทั้ง 3 รายให้ความสนใจเป็นหลัก พบว่าปริมาณทั้งหมดที่ประมูลได้และราคาประมูลใกล้เคียงกับคาดไว้ ทำให้โดยภาพรวมแล้วช่วยให้ต้นทุนคลื่น 5G ต่ำกว่าต้นทุนคลื่น 4G ราว 3-5 เท่าตัว 
 
 
 
คลื่นในมือหลังประมูลภาพรวมยังดูสมดุล คือ CAT และ TOT ได้คลื่นช่วงกลาง (700 MHz) และสูง (26 GHz) เหมาะเพียงให้บริการสาธารณะประโยชน์ จึงไม่น่ามาประกอบธุรกิจแข่งขันกับเอกชนได้ ส่วนศักยภาพคลื่นหลังประมูลของเอกชนนั้น เรียงตามฐานลูกค้าที่มี โดยเฉพาะ ADVANC กับ TRUE แต่ DTAC ต้องเหนื่อยกับการประกอบธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากมีช่วงห่างมากขึ้นด้านศักยภาพคลื่น โดยปริมาณคลื่นในมือจากเดิมนั้นแต่ละรายมีคลื่นใกล้เคียงกัน
 
แต่หลังประมูลล่าสุด ADVANC และ TRUE ได้คลื่นมาเพิ่ม 1310 MHz และ 890 MHz ส่วน DTAC ได้เพียง 200 MHz โดยโครงสร้างคลื่น 5G ที่ DTAC ขาด คือ คลื่นความถี่ช่วงกลาง (2600 MHz) ที่เหมาะกับการให้บริการลูกค้าผู้บริโภคทั่วไป โครงสร้างคลื่นที่ผู้ให้บริการอันดับ 1 และ 2 ดีกว่าอันดับ 3 มาก ฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่าช่วยลดความเสี่ยงการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้ประกอบการรายที่เหนือกว่าจะเลือกใช้จุดเด่นด้านคุณภาพบริการ ซึ่งน่าจะดีกับ ADVANC ที่ชนะประมูลได้คลื่นไปมากสุด
 
 
 
ประเด็นการกำหนดราคาค่าบริการทั้ง 4G และ 5G สำหรับผู้บริโภคทั่วไปต่อจากนี้ ยังต้องติดตามรวมถึงปริมาณธุรกิจใหม่ๆจากการนำ 5G ไปรุกสร้างรายได้ลูกค้าองค์กรระยะกลาง-ยาว ในการปรับปรุงประมาณการ ฝ่ายวิจัยฯจึงยังคงรายได้ของ ADVANC และ TRUE ไว้ใกล้เคียงเดิม
 
 
 
ยกเว้น DTAC ที่ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการลงอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้สมมติฐานเสียลูกค้าชั้นดีออกไป ได้กำไรกลุ่มปี 2563-2564 ลดลง 7% และ 12% ตามลำดับ ก่อนจะกลับมาเติบโตหลังจากนั้น แม้จะแย่กว่ากำไรตลาดแต่ราคาหุ้นกลุ่มได้สะท้อนไประดับหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่ต้นปีลดลง 6% จึงยังให้ลงทุนเท่าตลาด ให้ ADVANC เป็นหุ้น Top Pick และยังอาจลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก 5G เช่น INSET , JMART และ COM7 (อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ)

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ก.พ. 2563 เวลา : 16:45:03
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 12:39 am