หุ้นทอง
หุ้นเสี่ยงซึมต่อเจอแรงขาย-short future "ทอง"ต่ำกว่า 1,595 ดอลล์ให้ตัดขาดทุนทันที


ดัชนียังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องโดยปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มระบาดนอกประเทศจีนซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยในประเทศไทยเริ่มมีการกักกันโรคและผู้ป่วยที่เข้าข่ายต้องสงสัยไว้รอดูอาการหลายคนหลายแห่งและล่าสุดมีข่าวคนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย

 


 
 
 
ดังนั้นจึงทำให้นักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นโดยแสดงออกมาในลักษณะของการขายหุ้นและshort future จำนวนมาก ทำให้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลดลงไปเกิน 100 จุด คิดเป็นเกือบ 10% โดยแนวโน้มของดัชนียังมีความเสี่ยงที่จะซึมต่อเนื่องหลังจากผ่านช่วงซึมซับข่าวไปแล้ว ดังนั้นวันนี้ (2 มี.ค.) หากดัชนีรีบาวด์กลับขึ้นปิดในกรอบ BollingerBottom แถวๆ 1,362 จุดไม่ได้ ดัชนียังน่าจะซึมลงต่อเนื่องต่อไป

ส่วนในสัปดาห์นี้ หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ LDC ซึ่งมีแนวรับ 0.76 บาท แนวต้าน 0.83-0.86 บาท โดยระดับราคาปรับตัวลงแรงมีลักษณะกระโดดเปิด GAP และออกไปเล่น ปิดนอกกรอบ BollingerBottom แบบเต็มตัว มีโอกาสที่วันนี้ระดับราคาจะรีบาวด์กลับขึ้นปิด GAP ได้ หากวันนี้ราคาไม่ถอยกลับลงมาทำ New low ต่อเนื่องหรือต่ำกว่า 0.76 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับแถวๆ 0.83-0.86 บาทต่อไป

ขณะที่ SYNTEC มีแนวรับ 1.45 , 1.32 บาท แนวต้าน 1.56-1.65 บาท ระดับราคามีการปรับตัวลดลงต่อในลักษณะกระโดดเปิด GAP พร้อมวอลุ่มขายที่ออกมามาก ทำให้ระดับราคาหลุดออกไปเล่นและปิดนอกกรอบ BollingerBottom แบบเต็มตัว มีโอกาสที่วันนี้ระดับราคาจะรีบาวด์กลับขึ้นปิด GAP ได้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาทำ New low ต่อเนื่องหรือต่ำกว่า 1.45 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับแถวๆ 1.56-1.65 บาทต่อไป

และหุ้น 7UP แนวรับ 0.31 บาท แนวต้าน 0.36-0.39 บาท โดยระดับราคามีการปรับตัวลดลงต่อและหลุดออกไปนอกกรอบ BollingerBottom แบบเต็มตัวต่อเนื่อง 2 วันแล้ว โดยวอลุ่มซื้อขายเริ่มลดลง ดังนั้นมีโอกาสที่ระดับราคาจะดีดกลับขึ้นมาได้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 0.31 บาทอีก ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นในกรอบเส้น BollingerBottom แถวๆ 0.36-0.39 บาทต่อไป

ส่วนด้านตลาดทองคำ สรุปภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเวลา 10.30 น วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,624.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,583.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นถึง 40.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่เริ่มระบาดมากขึ้นนอกประเทศจีน

โดยราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่แล้วปรับขึ้นต่อเนื่องอยู่ โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,578.80-1,624.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบจากตลาดฝากสหรัฐหยุดทำการเนื่องในวัน President Day หรือวันประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ในช่วงกลางสัปดาห์ถึงวันศุกร์ ราคาทองคำโลกปรับขึ้นต่อเนื่องแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในจีนมีอัตราลดลงมากแล้วก็ตามแต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในหลายๆประเทศนอกประเทศจีนนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับนักลงทุนทั่วโลกเริ่มกังวลว่าฝากฝั่งจีนประเทศผู้ผลิตสินค้าและวัตถุดิบหลายชนิดได้รับผลกระทบจากไวรัสดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดปัญหาอุปกรณ์และวัสดุชิ้นส่วนขาดแคลนทั่วโลกได้ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นปรับลงและสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำพุ่งขึ้นแรง

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาอ่อนค่ามากถึง 0.42 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.620 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 31.200 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 31.120-31.660 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งได้รับปัจจัยจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบมากจากการขาดหายรายได้ของนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก

สำหรับนักลงทุนระยะสั้นยังแนะนำให้ถือทองคำต่อหลังซื้อมาบริเวณ 1,545-1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอบที่ผ่านมา ถึงแม้จะขึ้นมาถึงเป้าหมาย 1,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปแล้วก็ตาม แต่การปรับขึ้นยังแรงอยู่ หากขายทำกำไรไปแล้ว แนะนำให้รอจังหวะซื้อกลับบริเวณ 1,610 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือใกล้เคียง แต่หากต่ำกว่า 1,595 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุนทันที เป้าหมายระยะสั้นอยู่ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับนักลงทุนระยะยาวยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายปีนี้อยู่บริเวณ 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เคยให้ไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาใกล้ถึงแล้ว มีโอกาสพุ่งสูงกว่าเป้าหมายนี้เช่นกัน ไม่ใช่เพียงไวรัสโคโรน่า หรือความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ที่ทำให้ทองคำน่าสนใจ นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำแต่เศรษฐกิจในหลายประเทศหลักๆยังไม่ฟื้นตัวได้ดี และน่าจะได้รับผลกระทบต่อแรงซื้อและกำลังการผลิตสินค้าของประเทศจีนที่ขาดหายไปในปีนี้ ทองคำจึงยังเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากตราสารทางการเงินหรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 มี.ค. 2563 เวลา : 08:33:48
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 2:51 am