ในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวขาลงและมีความผันผวนอย่างหนัก คุณในฐานะผู้ลงทุน ย่อมนักลงทุนอาจรู้สึกใจหายกับสถานการณ์และผลตอบแทนที่หดหายไป โดยเฉพาะในเวลาที่มีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากดดัน ไม่ว่าจะเป็น COVID-19 เศรษฐกิจโลกเติบโตถดถอยผสมกับแรงเทขายตามปัจจัยทางเทคนิค จนทำให้ราคาหุ้นหลายตัวลดลงต่อเนื่อง ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่คุณในฐานะผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ “ซื้อหรือขาย”และเพื่อใช้เป็นหลักการวิเคราะห์สำหรับการลงทุนเมื่อเกิดภาวะตลาดหุ้นปรับลดลงแรง
ดังนั้นวันนี้มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและ TISCO Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ สิ่งที่คุณในฐานะผู้ลงทุนควรทำ มีดังนี้
คุณควร วิเคราะห์กราฟราคาหุ้นและปัจจัยพื้นฐาน โดยประเมินว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงไป มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคา (Price Pattern) เป็นอย่างไร ทั้งนี้เพื่อจับสัญญาณการ “ซื้อและขายให้ถูกจังหวะ”
ขณะเดียวกันคุณต้องวิเคราะห์หุ้นที่จะลงทุนจากปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) ทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศที่มีผลกระทบกับผลประกอบการของบริษัทด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าควรตัดสินใจอย่างไรกับการลงทุนในหุ้นเหล่านี้
ตั้งข้อสังเกตเพิ่ม
นอกจากการวิเคราะห์โดยทั่วไปในด้านปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแล้ว ในจังหวะนี้คุณควรพิจารณาด้วยว่าบริษัทที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำอย่างมากนั้น มีลักษณะดังต่อไปนี้หรือไม่
1. บริษัททำกำไรไม่เป็นไปตามเป้าหมายและผิดจากที่ประเมินเอาไว้มาก
2. ผู้บริหารขายหุ้นออกมาหรือไม่ เพราะผู้ที่รู้จักบริษัทดีที่สุด คือ ผู้บริหาร
3. เป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดขึ้นของธุรกิจยุคใหม่หรือไม่ เพราะบางบริษัทที่ถูก Disrupt จากธุรกิจยุคใหม่ อาจทำให้การสร้างผลกำไรในอนาคตปรับลดลง
ดังนั้นเมื่อราคาหุ้นของบริษัทกลุ่มนี้ปรับลดลงก็ต้องวิเคราะห์ว่าธุรกิจจะยังเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่
เลือกบริษัทผู้นำและมีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมนั้น
ถ้าคุณรู้สึกว่าราคาหุ้นปรับลดลงไปมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นตัวไหนดีก็ให้เลือกวิเคราะห์จากบริษัทที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมเป็นอันดับแรก มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นต้น
ดังนั้นในเวลาที่ตลาดหุ้นปรับลดลงและผันผวนอย่างรุนแรง กลยุทธ์คือ อย่ารีบซื้อหรือขาย ด้วยความตกใจ แต่ต้องวางแผนเป็นลำดับอย่างรอบคอบ ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้ดีที่สุด
ข่าวเด่น