ความกังวลภัยจาก COVID-19 กดดันให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ส่งผลให้ตลาดการเงินปั่นป่วน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือตลาดตราสารหนี้ขาดสภาพคล่องมากกว่าปกติ นักลงทุนพากันไถ่ถอนหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศจำนวนมาก
วิกฤต COVID-19 ครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นการปิดตัวลงของกองทุนตราสารหนี้บางแห่งในไทยและได้เห็นแบงก์ชาติออกมาตรการเพื่อช่วยกองทุนตราสารหนี้เหล่านี้
ในมุมมองของฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัส หรือ ASP เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวน่าจะเริ่มจำกัด โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ไทย เนื่องจากแบงก์ชาติได้เล็งเห็นปัญหาและได้ออกมาตรการช่วยเหลือกองทุนรวมที่ได้รับผลกระทบจากการขาดสภาพคล่อง โดยให้แบงก์พาณิชย์สามารถนำหน่วยลงทุนใน Money market fund, กองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิด ซึ่งถือสินทรัพย์คุณภาพดี มาวางเป็นหลักประกัน โดยคาดมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ให้จัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่อง(BSF) วงเงิน 70,000-100,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนออกใหม่ของบริษัทที่มีคุณภาพดี แต่ไม่สามารถต่ออายุ (rollover) กองทุนนี้จะ top up ให้ในส่วนที่ขาด เป็นเวลาไม่เกิน 270 วันเพื่อให้ roll over ได้
ประเด็นดังกล่าวทำให้อุปทานตราสารหนี้ลดลง ส่งผลให้ Bond Yield มีโอกาสลดลง โดยปัจจุบัน Bond Yield 1 ปี อยู่ที่ 0.77% (ลดลง 0.22% ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา) ด้วยภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำบวกกับนักลงทุนถือเงินสดอยู่ในมือมากขึ้น
ดังนั้นหนึ่งในทางเลือกลำดับต้นๆสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงและสูงกว่าผลตอบแทนของตราสารหนี้เดิมก็คือ หุ้นปันผลสูง ซึ่งฝ่ายวิจัยฯได้นำเสนอหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งปันผลสูง ที่น่าลงทุนมีดังนี้
ข่าวเด่น