
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่มีระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ได้เข้ามากระทบวิถีชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพและชีวิตของประชาชนในประเทศไทย รวมถึงผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ ขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น รวมถึงธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจร้านอาหารต้องได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ชะลอตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยอดขายที่มาจากคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติและเมื่อผนวกกับผลจากมาตรการปิดสถานประกอบการเป็นการชั่วคราว รวมถึงการออก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโควิด-19 ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 22 มี.ค. – 30 เม.ย. 2563 แม้รายได้จากช่องทาง E-Commerce และ Food Delivery จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติราว 8,000 ล้านบาท แต่ก็คงไม่สามารถทดแทนรายได้หลักจากช่องทางหน้าร้านที่สูญเสียไป จึงทำให้โดยสุทธิแล้ว คาดว่ามูลค่าตลาดค้าปลีกและตลาดร้านอาหารจะลดลงรวม 72,000 ล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2563 ทิศทางธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจร้านอาหารจะยังขึ้นอยู่กับหลายตัวแปร ซึ่งผู้ประกอบการคงต้องติดตามมาตรการที่มีแนวโน้มจะออกมาเพิ่มเติม ทั้งในมิติของการควบคุมโควิด-19 และการบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อภาคธุรกิจและประชาชน ซึ่งอาจมีผลต่อธุรกิจ
ข่าวเด่น