ผลกระทบจากประเด็น COVID-19 ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลก ออกมาตรการแบบจัดเต็ม เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นมาตการทางการเงิน โดยการลดดอกเบี้ยจนอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมอัดฉีด QE เข้าสู่ระบบการเงินมากกว่าในอดีตที่ผ่านๆ รวมทั้งยังมีมาตรการทางการคลังที่ช่วยเยียวยาผลกระทบต่างๆ
มาตรการเหล่านี้ หนุนให้ตลาดหุ้นหลายๆประเทศ ฟื้นตัวขึ้นมาเร็วและแรงในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ดัชนี S&P500 ฟื้นตัวขึ้นมาเกือบครี่งทางจากจุดต่ำสุดในปีนี้ที่ติดลบไป32.2% เหลือติดลบเพียง 17.7% ytd
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย ซึ่งเคยทำจุดต่ำสุดที่ 969.08 จุด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 ลดลงไป 38.7% ก็ฟื้นตัวขึ้นมาเร็วจนปัจจุบันเหลือติดลบ 23.1% ytd เท่านั้น
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS มองว่าการฟื้นนตัวขึ้นมาเร็วกว่า 25%จากจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ไม่ว่าจะมาจากความคาดหวังในมาตรการต่างๆที่ออกมา รวมถึงการเพิ่มสภาพคล่อง แต่ก็ยังมีความขัดแย้งระหว่างมาตรการการป้องกัน COVID-19 ที่เข้มงวดขึ้นกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง
รวมถึงยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกระตุ้นในอนาคตอาจลดลง หาก COVID-19 ลากยาวไปมากกว่านี้ เนื่องจากออกมาตรการจัดเต็มไปแล้วในตอนนี้
กลยุทธ์การลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้นที่ฟื้นตัวขึ้นมาแรง รวมถึงความเสี่ยงข้างหน้ายังมีอยู่ การเลือกหุ้นลงทุนต้องพิถีพิถันมากขึ้น ฝ่ายวิจัยฯแนะเลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ แต่กลับปรับฐานลงมาแรงกว่าตลาดมาก
โดย Top Pick ยังชื่นชอบ CENTEL, INTUCH และเพิ่ม TFG อีก 1 บริษัทในวันนี้
ข่าวเด่น