ผลกระทบจาก COVID-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลกดูเหมือนว่าจะรุนแรงสุดๆโดยเฉพาะผลกระทบต่อปริมาณการค้าโลก โดยล่าสุดองค์กรการค้าโลก (WTO) คาดว่าปริมาณการค้าโลกปี 2563 จะติดลบ 12.9% และกรณีเลวร้ายสุดอาจติดลบถึง 32% ซึ่งจะกดดันให้ World GDP ปีนี้ ติดลบแรง WTO ได้ปรับลดประมาณการปริมาณการค้าโลกปี 2563 ลง แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีฐาน (Base case) คาด trade volume จะติดลบ 12.9% yoy และส่งผลให้ GDP Growth โลก ติดลบ 2.5% yoy
ขณะที่กรณี Worse case คาด trade volume จะติดลบ 31.9%yoy และ GDP Growth โลกจะหดตัวแรง 8.8%yoy ซึ่งถือเป็นการติดลบมากกว่าในช่วงวิกฤต Supprime อย่างไรก็ตาม WTO ประเมินว่ากรณี Worse case มีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 24% ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีความคาดหวังมาตรการต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแบบจัดเต็ม พร้อมกับป้องกันการแพร่การะจายไวรัส COVID-19 ที่เข้มข้นขึ้น "หนุน"ให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของปีกว่า 25%
อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดเริ่มเห็นผลกระทบจากประเด็น COVID-19 ชัดขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ดังนั้นหนึ่งในทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจ คือ หุ้นปันผลสูง ด้วยเหตุผล ดังนี้ ช่วงที่ผ่านมา หุ้นปันผลฟื้นตัวได้ร้อนแรงกว่าตลาด สะท้อนได้จากดัชนี SETHD เพิ่มขึ้น 8.47%mtd มากกว่า SET Index ที่เพิ่มขึ้น 7.1%mtd
ส่วนใหญ่หุ้นปันผลมีรายได้มั่นคง เมื่อเทียบกับหุ้นประเภทอื่นๆและผันผวนน้อยกว่าตลาดจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในยามที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง
หุ้นปันผลมักปรับตัวขึ้นได้ดีก่อนการประกาศจ่ายปันผลเสมอ แต่ในอีกมุมหนึ่งเดือนเม.ย. เป็นเดือนที่มีหุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD ภาพรวมจึงคาดว่าจะกดดันดัชนีฯให้ลดลงราว 11 จุดตลอดทั้งเดือนเม.ย.นี้ เช่น ในวันนี้มีหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XD จำนวน 14 บริษัทและเป็นหุ้นขนาดใหญ่ เช่น SCC, SCB และ KBANK คาดจะกดดันให้ SET Index ลดลงถึง 3 จุดในวันนี้ โดยรายละเอียดตารางการขึ้นเครื่องหมาย XD
สำหรับหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ปันผลสูงที่ฝ่ายวิจัย ASPS แนะนำให้ลงทุนในยามนี้มี 5 บริษัท คือ LH, DIF, SEAFCO, INTUCH, BAM โดยในวันนี้ เลือกหุ้น INTUCH และ LH เป็นหุ้น Top Picks
ข่าวเด่น