สำหรับตัวเลขการติดเชื้อ COVID-19 ในไทย เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค.)มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ เพิ่มขึ้น 28 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อรวม 2,579 ราย เสียชีวิตรวม 40 ราย เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ของไทยเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 55 ราย ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงปลายเดือนมี.ค.-ต้นเม.ย.2563 ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 112 ราย
การที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในไทยเริ่มลดน้อยลง ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย เมื่อบวกกับมาตรการเยียวยาที่รัฐบาลประกาศออกมา ยิ่งถือว่าดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นมาตรการเยียว ผลกระทบจาก COVOD-19 ของรัฐบาลและแบงก์ชาติที่เตรียมวงเงินเพื่อพยุงเศรษฐกิจราว 1.98 ล้านล้านบาท และมาตรการควบคุมการระบาดของ COVID-19 ที่ยังเข้มงวด รวมถึงในวันนี้ รัฐบาลจะประชุมกับภาคเอกชน เช่น FETCO, สภาหอการค้าไทย, สภาอุตสาหกรรมไทย เป็นต้น เพื่อหารือถึงเรื่องการผ่อนเกณฑ์ Lockdown ประเทศ รวมถึงการเสนอเปิดห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
ฝ่ายวิจัยฯมองว่าเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามยังคงประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2563 ติดลบ 1.4% yoy ขณะที่ consensus คาดติดลบ 5-6% ทั้งนี้คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว สำหรับตลาดหุ้นไทย ช่วงที่ผ่านมาฟื้นตัวขึ้นมาเร็วเกือบ 27% จากจุดต่ำสุดที่ 969.08 จุด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 จากความคาดหวังที่ว่า เริ่มเห็นสัญญาณตัวเลขติดเชื้อ COVID-19 ในไทยชะลอลงต่ำกว่า 50 คนติดต่อกัน 4 วัน พร้อมกับอาจมีมาตรการลดระดับ Lock Down หรือเพิ่มปริมาณธุรกิจมากขึ้น
บล.เอเซีย พลัส เชื่อว่า SET Index อาจเป็นลักษณะขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ จำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมาปกติ รวมถึงตลาดยังขาด Fund Flow จากต่างชาติเข้ามาหนุน หลังจากที่ขายหุ้นไทยกว่า 1.33 แสนล้านดอลลาร์ (ytd) ทำให้ SET Index อาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นร้อนแรงเหมือนช่วงหลังเกิดวิกฤตซับไพรม์ที่มีการใช้ QE อย่างต่อเนื่องและหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นๆ ถึง 1.27 แสนล้านบาท (ช่วงเดือนมี.ค.2552-ธ.ค.2553) ผลักดันให้ SET Index ทะยานขึ้นจาก 431.52 จุด ขึ้นมาที่ 1,032.76 จุด หรือปรับขึ้นกว่า 139%ในเวลาไม่ถึง 2 ปี
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในยามที่ตลาดรอ Fund Flow จึงแนะนำหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่ยังปรับตัวขึ้นมาได้น้อยกว่าตลาด อย่าง LH และ RS ซึ่งเลือกเป็นหุ้น Top Picks วันนี้
ข่าวเด่น