ความทันสมัยของเทคโนโลยี ทำให้เกิดความสะดวกสบายด้านการบริการมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการเงินแต่มีหลายคนที่ไม่เคยสังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ทำได้แสนง่ายดาย รูดปื๊ด รูดปรื๊ด เพียงไม่กี่นาที ก็สามารถซื้อสินค้าได้สำเร็จแต่มารู้ตัวอีกที บิลเรียกเก็บหนี้ที่ใช้จ่ายเกินกำลังมาต่อหน้าแล้ว อีกทั้งกลุ่มที่เป็นหนี้มากที่สุด คือ วัยเริ่มทำงาน อายุ 25-35 ปี และกว่าครึ่งหนึ่งของคนอายุ 30 ปี มีหนี้จากสินเชื่ออุปโภคบริโภคและหนี้บัตรเครดิต
“หนี้บัตรเครดิต”จึงเป็นปัญหายอดนิยมสำหรับคนไทยในยุคปัจจุบัน เพราะการที่ผู้ใช้ขาดวินัยและความระมัดระวัง จนนำไปสู่ภาวะการมีหนี้สินเรื้อรังยากต่อการแก้ไขในอนาคต บัตรเครดิตมีดอกเบี้ยกว่า 18-28% ต่อปี และคำนวณเป็นรายวัน
ดังนั้นหากคุณใช้วิธีการผ่อนจ่ายชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆจะนำคุณไปสู่การมีหนี้สินไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณใช้การบริหารการเงินที่ผิดวิธี เช่น กดเงินสดจากบัตรเครดิตใบใหม่ เพื่อนำมาชำระหนี้บัตรเครดิตใบเดิมจะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยจ่ายของคุณพอกพูนไม่หมดสิ้น
วันนี้มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและคุณสุธาสินี สุวรรณภักดิ์ ออกมาแนะนำวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการหนี้บัตรเครดิต คือ ใช้หลักคิด “หยุดสร้างหนี้ รีไฟแนนซ์ แบนหนี้เก่า” คือคุณต้องรู้จักจัดการกับหนี้สินให้ถูกวิธี หยุดสร้างหนี้เพิ่ม รีไฟแนนซ์หนี้เดิมให้ดอกเบี้ยต่ำลง และลดหรือโปะหนี้เก่าให้หมดไปในที่สุด
ดังนั้น เทคนิคการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต จึงเป็นอีกวิธีที่สามารถใช้ในการจัดการกับหนี้บัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเดิมหรือสถาบันการเงินใหม่ที่จ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิมแล้วนำมาชำระหนี้บัตรเครดิตเดิมทั้งหมด ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ หรือเรียกว่า โปะหนี้บัตรหรือปิดบัตรเครดิต
หากคุณมีหนี้จากบัตรเครดิตหลายบัตร การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต จะเป็นการรวมหนี้มาไว้ด้วยกันในแหล่งเดียว แล้วผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง วิธีนี้จึงช่วยคุณแบ่งเบาภาระการผ่อนต่อเดือน และคุณก็ใช้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานขึ้น ซึ่งช่วยเสริมให้คุณมีสภาพคล่องมากขึ้น โดยกระบวนการมี ดังนี้
คุณต้องประมาณการหนี้บัตรเครดิตที่มีทั้งหมด เพื่อที่คุณจะนำไปขอสินเชื่อส่วนบุคคล โดยการตั้งวงเงินสินเชื่อควรตั้งเผื่อให้มากกว่าหนี้สินที่มีอยู่ เนื่องจากบางครั้งสถาบันการเงิน อาจพิจารณาให้สินเชื่อไม่เต็มจำนวน
ทั้งนี้หากวงเงินขอสินเชื่อส่วนบุคคลของคุณได้ต่ำกว่าหนี้สินทั้งหมด วิธีการ คือ ให้คุณเลือกนำเงินขอสินเชื่อที่ได้ไปชำระหนี้หรือปิดบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยที่แพงที่สุดก่อน เพื่อป้องกันดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มพูนในอนาคต
ถ้าคุณยื่นสมัครขอสินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคาร หรือสถาบันการเงิน คุณควรเลือกจากแหล่งที่ดอกเบี้ยต่ำที่สุด พิจารณาโปรโมชัน ระยะเวลาการผ่อนชำระ และเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบ เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์และความสามารถในการผ่อนชำระของคุณ ระยะเวลาในการผ่อนมีตั้งแต่ 18-60 เดือน ทำให้คุณในฐานะผู้กู้สามารถยืดหยุ่นการผ่อนชำระได้ตามกำลังความสามารถ
ปัจจุบันมีธนาคารหรือสถาบันการเงินหลายแห่ง มีโปรโมชันสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อจูงใจลูกค้าให้มาสมัคร เช่น ให้วงเงินกู้สูงสุด 3-5เท่าของรายได้ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน การลดดอกเบี้ยพิเศษ หรือฟรีค่าธรรมเนียม เป็นต้น
การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจึงเป็นทางออกที่ช่วยให้สามารถจัดการหนี้สินที่เกินความสามารถในการจ่าย ให้สามารถผ่อนชำระต่อเดือนได้ลดลง ทำให้การใช้จ่ายในครัวเรือนมีสภาพคล่องมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรมีการวางแผนใช้จ่ายเงินในอนาคตต่อไปด้วย เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวและไม่เกิดปัญหาการมีหนี้สินท่วมตัวอีก
ส่วนเทคนิคในการวางแผนทางการเงิน ได้แก่ การจดบันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายเป็นประจำ ทำให้เห็นพฤติกรรมการใช้เงินของคุณได้ดีขึ้น และเป็นจุดเริ่มต้นการมีวินัยทางการเงินของคุณ ทำให้คุณรู้ว่ารายได้น้อยไป หรือค่าใช้จ่ายมากไปหรือไม่ คุณควรตั้งเป้าหมายให้มีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
แยกค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็น
คุณควรตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนต้องการใช้จ่ายเพื่อตอบสนองความปรารถนาของตัวเอง แต่หลักการ คือ ควรใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นอย่างพอดีและมีสติ เพราะเมื่อสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง จะทำให้มีเงินออมมากขึ้น
วางแผนสร้างเงินออม เมื่อคุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว คุณควรหมั่นสร้างเงินออมให้เพิ่มพูน และแบ่งเงินออมเอาไว้เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน หากคุณมีเงินออมคงเหลือ คุณควรนำเงินออมไปลงทุนต่อยอดให้เกิดผลตอบแทนงอกเงยขึ้นไปอีก
การสร้างวินัยทางการเงิน เป็นหัวใจสำคัญที่สามารถช่วยให้แผนการใช้จ่ายเงินของคุณเป็นระบบ รวมถึงจัดการกับหนี้สินของคุณได้อย่างเหมาะสมตามคติ “หยุดสร้างหนี้ รีไฟแนนซ์ แบนหนี้เก่า” และสร้างเงินออมให้เกิดดอกผลงอกเงยขึ้น เชื่อว่าการบรรลุเป้าหมายทางการเงินคงจะไม่ไกลจากความเป็นจริงอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น