ดัชนีมีความพยายามประคองตัวไม่ลงต่อหลังจากหลุดลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน อีกทั้งยังเกิดเป็นสัญญาณโดจิอีกด้วย มีโอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์กลับได้ แม้ว่า MACD จะอ่อนตัวลงมาเล็กน้อยก็ตามแต่ยังเหนือกว่าระดับศูนย์
ดังนั้นหากวันนี้ (11 พ.ค.) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 1,252 จุดทำ New low ซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่ 1,272 จุด ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมแถวๆ 1,301 จุดอีกครั้ง ในขณะที่แนวรับถัดไปกรณีประคองตัวไม่ได้และหลุดลงไปทำ New low จะมีแนวรับถัดไปแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันบริเวณ 1,236 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น CHAYO Pแนวรับ 6.00-5.95 บาท แนวต้าน 6.40 , 6.65 , 6.95 บาท
ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high วันต่อวันได้ โดยเป็นการดีดกลับขึ้นมาหลังจากหลุดลงไปปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมา หรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.00-5.95 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 6.40 บาทและ 6.65 บาทต่อไป
หุ้น VGI แนวรับ 8.40 บาท แนวต้าน 8.75-8.85 , 9.15 บาท โดยระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกครั้ง หลังจากหลุดลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 8.40 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 8.75-8.85 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 เดือนแถวๆ และ 9.15 บาทต่อไป
และหุ้น HANA แนวรับ 29.50-29.25 บาท แนวต้าน 32.75 บาท ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกครั้งหลังจากประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ต่อเนื่อง พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มกลับขึ้นมาอีกเล็กน้อย
ดังนั้น หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 29.50-29.25 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 32.25 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 2 เดือนแถวๆ และ 32.75 บาทต่อไป
ส่วนด้าน ตลาดทองคำ สัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 10.10 น วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,717.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,698.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นถึง 18.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้รับปัจจัยจากดอลลาร์หสรัฐอ่อนค่าด้วยการจ้างงานของสหรัฐยังอ่อนแอจากผลของไวรัสโควิด-19
ขณะที่ ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่แล้วเคลื่อนไหวทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,681.90-1,738.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำโลกมีความผันผวนสูงอยู่ แต่อาจน้อยลงบ้าง เมื่อเทียบกับสองสามสัปดาห์ก่อนหน้า
โดยเริ่มต้นสัปดาห์ปรับลงจากตลาดมองว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นดีขึ้น แต่ราคาทองคำโลกก็ปรับตัวดีดขึ้นแรง เมื่อตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้ราคาแกว่งตัวผันผวนในระดับสูงอยู่
และในค่ำคืนเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ยังมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเมษายนของสหรัฐ ซึ่งอาจจะทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนแรงได้
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้น 0.290 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 32.250 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 32.540 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 32.230-32.560 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับนักลงทุนระยะสั้น ราคาทองคำโลกกลับมายืนเหนือแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทำให้เหมาะสมกับการซื้อเก็งกำไรอีกรอบ โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไม่ควรปิดต่ำกว่าอีกแล้ว
ดังนั้น จุดเข้าซื้ออยู่บริเวณ 1,660-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งใครที่ทำตามคำแนะนำ น่าจะได้ทองคำในช่วงราคาดังกล่าวมาเรียบร้อย ส่วนจุดทำกำไรอยู่บริเวณ 1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป ซึ่งขึ้นมาถึงเรียบร้อยแล้ว ใครที่ยังไม่ขายให้ระมัดระวัง หากหลุดต่ำกว่า 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ขายออกไปก่อนและรอรับกลับบริเวณ 1,640-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายปีนี้อยู่บริเวณ 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เคยให้ไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้นถึงแล้ว แต่ยังมีโอกาสพุ่งสูงกว่าเป้าหมายอื่นถัดไปเช่นกัน โดยเป้าหมายถัดไปจะอยู่ 1,750 และ 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
ไม่ใช่เพียงไวรัสโควิด-19 เท่านั้นที่จะหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกในปีนี้มีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อการผิดนัดชำระหนี้ของบรรดาหุ้นกู้ทั่วโลก ซึ่งอาจทำให้เงินทุนจำเป็นต้องไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ข่าวเด่น