บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2563 มียอดขายรวม 42,132 ลบ. ลดลง 1.56% กำไรสุทธิรวม 717 ลบ. ลดลง 58.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มทรัพยากร เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงมียอดขายและกำไรสุทธิเติบโต
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน mai จำนวน 153 บริษัท คิดเป็น 91% จากทั้งหมด 169 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC บริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด บริษัทที่ส่งงบไม่ทันตามกำหนด และบริษัทที่ขอผ่อนผันการนำส่งงบการเงินจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) นำส่งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยมียอดขายรวม 42,132 ล้านบาท ลดลง 1.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนรวม 33,348 ล้านบาท ลดลง 0.84% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 21.42% มาอยู่ที่ 20.85% กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) 1,455 ล้านบาท ลดลง 27.51% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิรวม 717 ล้านบาท ลดลง 58.58% อย่างไรก็ดี บจ. ที่รายงานผลกำไรสุทธิมีจำนวน 102 บริษัท คิดเป็น 67% ของบริษัทที่นำส่งผลการดำเนินงานทั้งหมด
"ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2563 ของ บจ. mai ปรับตัวลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยอดขายลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรลดลง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงมีการเติบโตทั้งยอดขายและกำไรสุทธิ คือกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร
เมื่อพิจารณาฐานะทางการเงิน ณ ไตรมาสแรก ปี 2563 บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 272,427 ล้านบาท โครงสร้างเงินทุนรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.10 เท่า ขณะที่สิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 1.03 เท่า" นายประพันธ์กล่าว
ปัจจุบันมี บจ. ใน mai 169 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2563) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 275.03จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) อยู่ที่ 188,076.02 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 590.09 ล้านบาทต่อวัน
ข่าวเด่น