ต้องบอกว่า รถยนต์ จัดเป็นความฝันลำดับแรกๆ ของใครหลายคน แต่ก็เป็นความฝันที่มีมูลค่าสูงพอสมควร เรียกได้ว่า เป็นฝันที่ต้องใช้เวลาเตรียมตัว เตรียมใจ และที่สำคัญ คือ เตรียมเงิน
วันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอสะกิดคุณๆ นิดนึงว่า ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถควรชั่งน้ำหนักดูให้ดีก่อนว่ารถคันนั้น คุณ “แค่อยากได้” หรือ คุณ ”จำเป็นต้องใช้จริงๆ”
ในประเด็น หากคุณตัดสินใจแน่แล้วว่าจะซื้อรถ คุณควรเริ่มหาข้อมูล และรายละเอียดของรถคันนั้น ควบคู่ไปกับคุณต้องดูว่าเงินในกระเป๋าของตัวเองว่า มีมากน้อยเพียงใด ถ้ามีเงินไม่มากพอก็ต้องขอกู้เงินเพิ่มเติม
และหากจำกันได้ หนี้รถสามารถเป็นได้ทั้งหนี้ดีและหนี้ไม่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และลักษณะการนำไปใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์
หากรถคันนั้น คุณสามารถสร้างรายได้ เช่น เป็นพนักงานขาย ต้องขับรถไปพบลูกค้า หรือซื้อเพื่อขับไปทำงาน ก็เรียกได้ว่าหนี้รถก้อนนี้เป็นหนี้ดี
แต่หากคุณซื้อรถโดยไม่จำเป็น หรือไม่สามารถนำรถไปหารายได้เพิ่มเติมได้ ก็ถือว่าหนี้รถก้อนนี้เป็นหนี้ไม่ดี ดังนั้น ก่อนกู้เงินเพื่อซื้อรถ ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า หนี้รถก้อนนี้เป็นหนี้ดีจริงๆ หรือไม่
ถัดมาเป็นส่วนของการกู้เงินเพื่อซื้อรถ สิ่งแรกที่ต้องเตรียม คือ เงินดาวน์ โดยทั่วไปแล้วจะต้องวางเงินดาวน์ที่ 25% ของราคารถ เช่น รถยนต์ราคาคันละ 600,000 บาท ต้องสะสมเงินก้อนแรกเพื่อดาวน์รถประมาณ 150,000 บาท
เมื่อมีเงินดาวน์รถแล้ว ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ความสามารถในการผ่อนชำระ โดยระยะเวลาในการผ่อนสินเชื่อรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 4-6 ปี ถึงแม้จะสั้นกว่าการผ่อนบ้านที่อาจยาวนานเป็นเวลากว่า 20-30ปี ก็ตาม แต่นี่อาจเป็นภาระที่หนักเกินไปได้เหมือนกัน ถ้าเตรียมเงินไม่พอ
โดยทั่วไปแล้ว เงินที่ผ่อนรถในแต่ละเดือนควรอยู่ประมาณ 20-30% ของรายได้ เช่น รายได้เดือนละ 25,000 บาท ไม่ควรผ่อนรถเกินเดือนละ 5,000-7,500 บาท เป็นต้น
การคิดดอกเบี้ยในการกู้ซื้อรถเป็นการคิดแบบ Flat Rate คือ คิดรวมดอกเบี้ยกับเงินต้นเข้าด้วยกัน แล้วนำมาแบ่งออกเป็นรายงวด เช่น ต้องการซื้อรถราคา 700,000 บาท โดยขอกู้เงินเพื่อซื้อรถ 500,000 บาท ดอกเบี้ย 5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด = 5% x 500,000 บาท x 5 ปี = 125,000 บาท
ดังนั้น จำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมด = เงินต้น + ดอกเบี้ย = 625,000 บาท
จ่ายทั้งหมด 5 ปี (หรือ 60 เดือน) ตกเดือนละ 625,000/60 = 10,416.67 บาท
จะเห็นได้ว่า ปัจจัยที่ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง คือ ดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อนชำระ ดังนั้น คุณจึงควรเลือกสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยที่เหมาะสม และไม่ควรเลือกระยะเวลากู้เงินที่นานเกินไป เพราะถึงแม้จะสามารถผ่อนชำระได้ก่อนเวลาที่ตกลงไว้ ก็จะไม่ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงเหมือนกับการผ่อนบ้านที่มีลักษณะลดต้นลดดอก
ทางเลือกไหน ดีที่สุด
การซื้อรถด้วยเงินสด คือ ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องพึ่งพาเงินกู้ ก็ควรจ่ายเงินดาวน์ให้ได้มากที่สุด และกู้เงินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มีภาระในการจ่ายดอกเบี้ยลดลง
ที่สำคัญคุณอย่าลืมว่า การมีรถไม่ได้สร้างภาระค่าผ่อนรถทุกเดือนเท่านั้น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องเตรียมการไว้ ดังนี้
1. ค่าน้ำมัน หากใช้รถยนต์ทุกวัน ค่าน้ำมันจะอยู่ที่ 3,000 – 5,000 บาทต่อเดือน ถ้าเป็นรถคันใหญ่ ค่าน้ำมันอาจแตะถึง 10,000 บาทต่อเดือน
2. ค่าประกันภัย เริ่มต้นที่ 6,500 บาทต่อปี หากเป็นประกันภัยชั้น 1 สำหรับรถยนต์ทั่วไปประมาณ 12,000 – 20,000 บาทต่อปี
3. ค่าต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ อยู่ที่ 600 – 1,200 บาทต่อปี บางครั้งอาจรวมอยู่ในประกันภัยแล้ว
4. ค่าต่อทะเบียนภาษีรถยนต์ 1,500 – 3,000 บาทต่อปี ยิ่งรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ ก็ยิ่งเสียภาษีสูงขึ้น
5. ค่าบำรุงรักษา ขึ้นอยู่กับรุ่น สภาพเครื่องยนต์ ระยะทาง การใช้งาน และการถนอมรถ โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 5,000 – 10,000 บาทต่อปี และจะสูงขึ้นเมื่อรถยนต์มีอายุมากขึ้น
6. ค่ายางรถยนต์ โดยทั่วไปควรเปลี่ยนยางทุก 2 ปี หรือทุก 50,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน โดยเฉลี่ยราคายางรถยนต์จะอยู่ที่ชุดละ 10,000 – 20,000 บาท นอกจากนี้ ควรสลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
7. ค่าแบตเตอรี่ ควรเปลี่ยนทุก 1 – 2 ปี ค่าแบตเตอรี่อยู่ที่ลูกละ 2,000 – 4,000 บาท
8. ค่าทางด่วน (สำหรับผู้ใช้รถในกรุงเทพฯ) อยู่ที่ 50 – 100 บาทต่อครั้ง หากใช้ทางด่วนทุกวัน อาจสูงถึง 3,000 – 4,000 บาทต่อเดือน
9. ค่าที่จอดรถ (ในกรุงเทพฯ) อยู่ที่ 1,500 - 5,000 บาทต่อเดือน
10. ค่าล้างรถ อยู่ที่ 300 - 500 บาทต่อครั้ง ไม่รวมเคลือบสีรถยนต์
11. ค่าอุปกรณ์เสริมติดรถยนต์ เช่น ฟิล์ม กล้องหน้ารถ อยู่ที่ 10,000 บาท
12. ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายจากการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วอาจแตะถึง 100,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับรุ่น สภาพเครื่องยนต์ ระยะทาง การใช้งาน และการถนอมรถ
การมีรถสักคัน ถึงแม้ว่าจะทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาไม่รู้จบ ดังนั้น ก่อนซื้อรถสักคันต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และที่สำคัญ คือ เตรียมเงินให้พร้อม
ข่าวเด่น