บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด รายงานผลประกอบการประจำปีไตรมาส ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563
แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “อาลีบาบามีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในไตรมาสที่ผ่านมา เราได้รับประโยชน์จากตลาดที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ทั้งในด้านการบริโภคและการปฏิบัติการขององค์กรต่างๆ โดยมีตัวเร่งคือการเกิดขึ้นของโรคระบาด ซึ่งอาลีบาบาได้ระดมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของเราทั้งหมดมาใช้เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ในขณะเดียวกันก็ขยายและเพิ่มความหลากหลายของฐานลูกค้า ด้วยการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงหลังโควิด-19 แม้ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ที่ตลาดไม่ปกติ แต่อาลีบาบายังคงให้ความสำคัญกับแผนงานในระยะยาว และทำตามพันธกิจที่วางไว้ รวมทั้งสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้าทั้งที่เป็นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ”
แม็กกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “อาลีบาบาเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่อย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้เติบโตขึ้น 34% และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) เติบโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตลาดประเทศจีนซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการซื้อขายหลักของอาลีบาบาได้กลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ จนมียอดขายจากทุกกลุ่มธุรกิจกลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในขณะที่ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งมีรายได้เติบโตขึ้น 59% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยการที่เรามีกำไรเพิ่มขึ้นและมีกระแสเงินสดที่ดี ทำให้เราสามารถสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักและลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว”
ข้อมูลที่น่าสนใจ
จากผลประกอบการประจำไตรมาส เมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563
รายได้รวม (Revenue) อยู่ที่ 153,751 ล้านหยวน หรือ 21,762 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 684,197 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
จำนวนลูกค้าประจำต่อปี (Annual active consumers) ในตลาดค้าปลีกจีนของอาลีบาบา แตะ 742 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16 ล้านคนในรอบ 12 เดือน เมื่อสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563
จำนวนลูกค้าที่ซื้อเป็นประจำทุกเดือนผ่านมือถือ (Mobile MAUs) ในตลาดค้าปลีกจีนของอาลีบาบา แตะ 874 ล้านคน ในเดือนมิถุนายน 2563 เพิ่มขึ้น 28 ล้านคน เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2563
กำไรจากการดำเนินการ (Income from operations) อยู่ที่ 34,705 ล้านหยวน หรือ 4,912 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 154,433 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITDA) และคำนวณแบบ non-GAAP เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 51,039 ล้านหยวน หรือ 7,224 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 227,122 ล้านบาท) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) และคำนวณแบบ non-GAAP เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่ 45,372 ล้านหยวน หรือ 6,422 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 201,907 ล้านบาท)
กำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ (Net income attributed to ordinary shareholders) อยู่ที่ 47,591 ล้านหยวน หรือ 6,736 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 211,779 ล้านบาท) กำไรสุทธิ (Net income) เท่ากับ 46,437 ล้านหยวน หรือ 6,573 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 206,655 ล้านบาท) กำไรสุทธิที่คำนวณแบบ Non-GAAP (Non-GAAP net income) คิดเป็น 39,474 ล้านหยวน หรือ 5,587 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 175,655 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
กำไรต่อหุ้นปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐ (Diluted earnings per ADS) เท่ากับ 17.36 หยวน หรือ 2.46 เหรียญสหรัฐ (ราว 77 บาท) กำไรต่อหุ้นปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐที่คำนวณแบบ Non-GAAP (Non-GAAP diluted earnings per ADS) เท่ากับ 14.82 หยวน หรือ 2.10 เหรียญสหรัฐ (ราว 66 บาท) เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรปรับลดต่อหุ้น (Diluted earnings per share) เท่ากับ 2.17 หยวน หรือ 0.31 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9 บาท) และกำไรปรับลดต่อหุ้นที่คำนวณแบบ Non-GAAP (Non-GAAP diluted earnings per share) เท่ากับ 1.85 หยวน หรือ 0.26 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8 บาท) เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (Net cash provided by operating activities) อยู่ที่ 50,099 ล้านหยวน หรือ 7,091 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 222,941 ล้านบาท) ส่วนกระแสเงินสดสุทธิที่คำนวณแบบ Non-GAAP (Non-GAAP free cash flow) อยู่ที่ 36,570 ล้านหยวน หรือ 5,176 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 162,733 ล้านบาท)
ข่าวเด่น