JMART - JMT ประกาศแผนระดมทุน เพื่อเพิ่มทางเลือกในการขยายโอกาสโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ และเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันกาลกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดย JMART ออกหุ้นใหม่กว่า 362 ล้านหุ้น แบ่งขายผู้ถือหุ้นเดิม 30% นักลงทุนเฉพาะเจาะจงราว 10% เตรียมขายหุ้นกู้อีก 3,000 ล้านบาท ส่วน JMT เพิ่มทุนและออกหุ้นกู้ในลักษณะเดียวกัน พ่วงออกวอร์แรนต์ JMT-W3 แจกผู้ถือหุ้นอีก 100 ล้านหน่วย เพื่อรองรับธุรกิจบริหารหนี้ที่มีโอกาสโตอีกมหาศาลในปีนี้ ด้านแม่ทัพใหญ่กลุ่มเจมาร์ท ย้ำ การขอกรอบ General Mandate เป็นเพียงแค่กรอบในการระดมทุนที่เตรียมพร้อมไว้เท่านั้น ขณะที่แผนธุรกิจของบริษัทในเครือยังเดินหน้าเติบโต พร้อมเก็บเกี่ยวผลงานจากการลงทุนในช่วงก่อนหน้า และจะยิ่งสยายปีกโตในอนาคต
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในฐานะอินเวสเมนท์คอมพานี (Investment Company) ที่ลงทุนในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,108,077,312 บาท เป็นทุน 1,470,720,796 บาท โดยออกหุ้นใหม่ จํานวน 362,643,484 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ (พาร์) 1.00 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอํานาจทั่วไป (General Mandate) โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น จํานวนไม่เกิน 271,982,613 หุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จํานวนไม่เกิน 90,660,871 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจํากัด (Private Placement) โดย ราคาเสนอขายจะไม่เข้าข่ายเป็นการเสนอขายหุ้นราคาต่ำตามที่ประกาศข้างต้นกําหนด
วัตถุประสงค์การขอกรอบเพิ่มทุนแบบ General Mandate ในครั้งนี้ ไว้เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการระดมทุน ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับการลงทุนหรือการขยายธุรกิจในอนาคตได้ทันที ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติกรอบดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการจะพิจารณาความเหมาะสมภายใต้กรอบการเพิ่มทุนที่ได้รับอนุมัติอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 20 ปี เพื่อชําระคืนหนี้ และหรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียยน และการขยายธุรกิจ
ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวข้างต้น รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 271,982,613 หุ้น หรือคิดเป็นร้อย ละ 30 ของทุนชําระแล้วของบริษัท ณ วันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้มีการเพิ่มทุนแบบมอบอํานาจทั่วไป (General Mandate) จํานวน 906,608,710 บาท หรือคิดเป็นหุ้นชําระแล้วจํานวน 906,608,710 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
“เจมาร์ท เราเป็น Investment Company ที่พร้อมจะลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตสูง และเพิ่มประสิทธิภาพในการระดมทุน ถ้ามีโอกาสทางธุรกิจดีๆ เข้ามา เราไม่ต้องใช้เวลามากในการระดมทุนภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการขอกรอบการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเพียงแค่กรอบในการระดมทุนเพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาส รวมทั้ง การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทย่อยที่มีศักยภาพเพิ่มเติม เราเชื่อจะสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าต่อผู้ถือหุ้นในระยะยาว ขณะที่ ดีลการจับมือพันธมิตรกับ KB Kookmin Card ผู้นำธุรกิจบัตรเครดิตจากเกาหลีใต้คาดว่าจะปิดดีลได้ภายในไตรมาส 4/2563 รวมทั้ง บริษัทในกลุ่มเจมาร์ทยืนยันยังเดินหน้าโตต่อตามแผน หลังในช่วงที่ผ่านมา รายงานผลประกอบการออกมาอย่างน่าประทับใจ สะท้อนความสำเร็จในการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุน ในฐานะเจมาร์ทเป็น Investment Company” นายอดิศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3 (JMT-W3) ในจำนวนไม่เกิน 100,000,000 หน่วย จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า มีอายุ 1 ปี 6 เดือน ราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 42 บาท/หุ้น กำหนดให้วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรร JMT-W3 อย่างไรก็ดี อัตราส่วนการจัดสรรจะอยู่ในช่วง 8.91509 – 11.14498 หุ้นเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณากำหนดอัตราส่วนการจัดสรรสุดท้ายต่อไปภายหลังจากรู้ผลการใช้สิทธิแปลงสภาพ JMT-W2 แล้ว นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจัดสรร JMT-W3 ให้กรรมการและพนักงาน (ESOP) จํานวน 3,200,000 หน่วย อายุ 3 ปี ราคาแปลงสภาพที่ 29.10 บาท
และมีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จํานวน 232,155,991 บาท จากทุนเดิม 554,994 295 บาท เป็น 787,150 286 บาท โดยการออกหุ้นใหม่ 464,311,982 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ใช้รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพ JMT-W3 รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ที่จัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย ครั้งที่ 1 (JMT-ESOP W1) ตามรายละเอียดที่กล่าวข้างต้น และรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพ JMT-W2 จำนวน 4,508,518 หุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 356,603,464 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) จำนวนไม่เกิน 267,452,598 หุ้น และบุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวนไม่เกิน 89,150,866 หุ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 20 ปี เพื่อชําระคืนหนี้ และหรือใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียยน และการขยายธุรกิจ
สำหรับการขอกรอบการเพิ่มทุนแบบ General Mandate ของ JMT วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการระดมทุนในกรณีที่บริษัทมีความจําเป็นที่จะต้องใช้เงินเพิ่มทุน และทําให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนที่มีความพร้อมสําหรับการลงทุนหรือการขยายธุรกิจในอนาคตได้อย่างทันกาล
โดย JMT มีโอกาสในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพอีกมาก การขอกรอบการเพิ่มทุนไว้รองรับโอกาสในการซื้อหนี้ในอนาคต ด้วยสถานการณ์ที่เร่งให้หนี้ด้อยคุณภาพออกมาเป็นจำนวนมาก และเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการระดมทุน มองถ้าโอกาสทางธุรกิจเข้ามา บริษัทฯ ไม่ต้องใช้เวลามากในการระดมทุน ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้ง ภาพรวมในปีนี้สถาบันการเงินจะเร่งทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาในช่วงครึ่งปีหลังอีกเป็นจำนวนมาก เป็นโอกาสที่ดีในการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร ด้วยต้นทุนที่ดี และตอกย้ำ JMT เป็นผู้นำในธุรกิจหนี้ด้อยคุณภาพภาคเอกชนรายใหญ่ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี JMART และ JMT กําหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนและการออกเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว
ข่าวเด่น